เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียได้ตั้งข้อหาบุคคล 4 ราย หลังพบว่ามีขบวนการฟอกเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี มูลค่ากว่า 123 ล้านดอลลาร์ และมีการดำเนินการผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัย
สำนักงานตำรวจกลางของออสเตรเลีย (Australian Federal Police) ระบุว่าพวกเขาได้อายัดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากอาชญากรรมมูลค่ารวมกว่า 13.6 ล้านดอลลาร์ ในรัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์
การสอบสวนครั้งนี้ดำเนินการโดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษ Queensland Joint Organized Crime Taskforce ซึ่งมีเจ้าหน้าที่มากถึง 70 คนจากหลายหน่วยงาน เริ่มต้นในเดือนธันวาคม 2023 โดยพบว่าบริษัทรักษาความปลอดภัยใช้รถขนส่งเงินสดเป็นฉากหน้าในการเปลี่ยนเงินสดจากอาชญากรรมไปเป็นคริปโต
เส้นทางการทำธุรกรรมจากหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีรายงานว่าฟอกเงินกว่า 9.5 ล้านดอลลาร์ภายในเวลา 15 เดือน ได้นำเจ้าหน้าที่ไปพบโครงข่ายการฟอกเงินที่ซับซ้อนซึ่งถูกจัดฉากให้ดูเหมือนเป็นธุรกิจปกติ
บริษัทดังกล่าวถูกกล่าวหาว่าผสมรายได้ที่ถูกกฎหมายเข้ากับเงินสดจากกิจกรรมผิดกฎหมาย ก่อนจะส่งต่อผ่านบริษัทโปรโมชันขายสินค้า ร้านรถยนต์คลาสสิก และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต จากนั้นเงินที่ฟอกแล้วจะถูกโอนให้กับผู้รับผลประโยชน์ในรูปแบบของคริปโตเคอร์เรนซีหรือผ่านธุรกิจเหล่านั้น
แม้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะมีศักยภาพในการปฏิรูประบบการเงิน แต่ด้วยความเปิดเผยและไร้ศูนย์กลาง ก็กลายเป็นช่องทางที่อาชญากรใช้หลบเลี่ยงการตรวจสอบ โดยเฉพาะผ่านเครื่องมืออย่าง mixer, โปรโตคอล DeFi และ crosschain bridge ที่ช่วยพรางเส้นทางเงิน อย่างไรก็ตาม ความโปร่งใสของบล็อกเชนยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญของเจ้าหน้าที่ในการติดตามธุรกรรมผิดกฎหมาย
และในช่วงหลังมานี้ อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเริ่มขยายเข้าสู่โลกจริงมากขึ้น โดยมีการใช้ความรุนแรงเพื่อแย่งชิงหรือปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัล
ที่มา: Cointelegraph