ล่าสุดมีข้อมูลที่น่าทึ่งเปิดเผยออกมาว่า เจ้าชายแห่งซาอุดีอาระเบียพระองค์หนึ่ง ถือครองเหรียญ XRP มาตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งเรื่องนี้ถูกยืนยันโดย Kelvin Chin ซีอีโอของบริษัท VivoPower ในบทสัมภาษณ์ที่ถูกแชร์จากนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง Crypto Eri Carpe Diem บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X
ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่ VivoPower International PLC บริษัทพลังงานสะอาดที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq กำลังเดินหน้าแผนกลยุทธ์การใช้ XRP เป็นทรัพย์สินคลังครั้งใหญ่ ที่เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วทั้งวงการคริปโต
VivoPower เพิ่งประกาศการระดมทุนรอบพิเศษ มูลค่าถึง 121 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเงินทุนก้อนโตนี้ ส่วนใหญ่มาจากเจ้าชาย Abdulaziz bin Turki bin Talal Al Saud แห่งราชวงศ์ซาอุฯ ผ่านบริษัท Eleventh Holding โดยเขาอัดเงินเข้ามาถึง 100 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว เพื่อสนับสนุนให้ VivoPower กลายเป็น บริษัทมหาชนแห่งแรกที่ใช้ XRP เป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์ด้านการเงิน
Kelvin Chin ซีอีโอของ VivoPower กล่าวว่า แผนกลยุทธ์ของบริษัทไม่ได้มีเพียงแค่การซื้อ XRP เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนา แอปพลิเคชัน DeFi บนเครือข่าย XRP Ledger (XRPL) ด้วย เพื่อผลักดันระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
Kelvin Chin เล่าว่า ในระหว่างที่ทีมของเขากำลังมองหาพันธมิตรเพื่อผลักดันโครงการนี้ ก็ได้มีโอกาสเจรจากับสมาชิกราชวงศ์ซาอุฯ ซึ่งเปิดเผยว่า เขาถือ XRP มาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว และในแถลงการณ์ของเจ้าชายก็ระบุชัดว่า เขาได้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมานานกว่า 10 ปี และถือ XRP มาอย่างยาวนาน ซึ่ง XRP คือหนึ่งในเหรียญที่เขาเชื่อมั่นระยะยาว
การสนับสนุนของเจ้าชายในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ เพราะมีรายงานว่า เจ้าชายได้หารือกับผู้นำสหรัฐฯ รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งการสนทนาเหล่านั้นน่าจะมีอิทธิพลให้เขามองว่า ตอนนี้คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการผลักดันการใช้บล็อกเชนและคริปโตในซาอุดีอาระเบีย
รูปแบบการระดมทุนของ VivoPower ก็คล้ายกับสิ่งที่บริษัท Strategy เคยทำกับ Bitcoin มาก่อน ซึ่งเคยถูกขนานนามว่าเป็นโมเดล “Bitcoin สำหรับคลังบริษัท” และตอนนี้ VivoPower กำลังจะเป็นผู้บุกเบิก “XRP สำหรับคลังบริษัท” รายแรกของโลก
ขั้นตอนขั้นต่อไปคือ การลงมติของผู้ถือหุ้นในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ หากได้รับความเห็นชอบ VivoPower ก็จะนำเงินที่ได้ ไปจัดสรรเพื่อซื้อ XRP จำนวนมาก พร้อมกับพัฒนาโซลูชัน DeFi บนเครือข่าย XRPL และใช้บางส่วนชำระหนี้ กับเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจของบริษัท
ที่มา : timestabloid