วันนี้ (10 มิถุนายน) ราคาของ Bitcoin ได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ $110,000 เป็นครั้งแรก หลังจากที่ตลาดซบเซามาตลอดช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
อ้างอิงข้อมูลจากกราฟ BTC/USD พบว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Bitcoin มีการปรับตัวขึ้นมาถึง 4.04% จากเดิมที่ระดับราคา $105,600 ขึ้นมาทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ $110,530

โดยปัจจัยสำคัญที่จุดกระแสความร้อนแรงในครั้งนี้ ได้แก่ การเข้าซื้อ Bitcoin ของบริษัท Strategy จำนวน 1,045 BTC ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากแรงหนุนจากสถาบันแล้ว ตลาดยังได้รับแรงกระตุ้นจากการ “ล้างพอร์ต” หรือ Liquidation ของนักลงทุนฝั่ง Short ที่ไม่สามารถรับมือกับแรงดันขาขึ้นได้ทัน ทำให้เกิดแรงซื้อซ้ำเติมต่อเนื่องตามมาจากการตัดขาดทุน ส่งผลให้ราคา BTC พุ่งทะยานแบบไร้แนวต้านในช่วงเช้าวันนี้
อีกหนึ่งปัจจัยบวกคือการประชุมล่าสุดของสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) ที่มีมติผ่อนปรนท่าทีต่อภาคสินทรัพย์ดิจิทัล โดยระบุว่ากำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางร่วมมือกับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลแทนที่จะ “สกัดกั้น” เหมือนในอดีต ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เตรียมหารือกับรัฐบาลจีนในวันอังคารหน้าเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้า ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอาจเป็นสัญญาณบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก และส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตลาดการลงทุนกลับมาอีกครั้ง
ฝั่ง Altcoins เองก็มีการเคลื่อนไหวที่โดดเด่นเช่นกัน โดย Ethereum พุ่งขึ้นกว่า 8% ทำราคากลับมายืนเหนือระดับ $2,700 ได้สำเร็จ ขณะที่ Solana และ Dogecoin ก็ไม่แพ้กัน โดยปรับตัวขึ้น 5.5% และ 6.31% ตามลำดับ สะท้อนถึงความร้อนแรงที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วทั้งตลาด
นักวิเคราะห์จากหลายสำนักเริ่มออกมาให้ความเห็นว่า หาก Bitcoin สามารถยืนเหนือระดับ $110,000 ได้อย่างมั่นคง ตลาดอาจกำลังเข้าสู่เฟส “FOMO” อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายต่อไปอยู่ที่ $115,000 และ $120,000 ตามลำดับ
“นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงพีคใหม่ในวัฏจักรขาขึ้น” — Axel Adler J นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant กล่าวในบทความของ CryptoQuant: “Bitcoin and the Prophecy of the Next Leap”

