ล่าสุด Pan Gongsheng ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เปิดเผยในการประชุม Lujiazui Forum เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนว่า จีนมีแผนจะจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการระหว่างประเทศสำหรับหยวนดิจิทัล (e-CNY)” ในเมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อยกระดับการใช้เงินหยวนดิจิทัลในระดับโลก
Gongsheng กล่าวอย่างชัดเจนว่า จีนต้องการผลักดันให้ “ระบบการเงินโลกเปลี่ยนจากการผูกขาดโดยไม่กี่สกุลเงิน ไปสู่ระบบแบบหลายขั้ว” เพื่อลดความเปราะบางของระบบชำระเงินข้ามพรมแดนที่ปัจจุบันยังคงพึ่งพาสกุลเงินอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ และยูโร ซึ่งอ่อนไหวต่อความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เขาเชื่อว่า การสร้างระบบการเงินโลกแบบหลายศูนย์อำนาจจะช่วย เพิ่มความยืดหยุ่นของระบบการเงินระหว่างประเทศ ลดการผูกขาดของประเทศเจ้าของสกุลเงินหลัก และช่วยเสริมเสถียรภาพทางการเงินโลกโดยรวม
ปัจจุบัน จีนยังคงเผชิญข้อจำกัดจากการ ยังไม่เปิดเสรีบัญชีทุน (Capital Account) อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การผลักดันหยวนดิจิทัลสู่เวทีโลกดำเนินไปอย่างค่อนข้างช้า
อย่างไรก็ตาม จีนยังคงเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรประเทศในกลุ่ม BRICS และผลักดันการใช้ระบบชำระเงินของตนเอง เช่น CIPS (Cross-Border Interbank Payment System) ซึ่งเป็นทางเลือกแทนระบบชำระเงินที่อิงกับสถาบันการเงินตะวันตก ปัจจุบันมีธนาคารใหญ่ 6 แห่งร่วมใช้ระบบนี้แล้ว
ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็ประกาศทิศทางชัดเจนว่าต้องการสนับสนุนคริปโตเคอร์เรนซีผ่านกฎหมาย Genius Act แทนที่จะพัฒนา CBDC (Central Bank Digital Currency) เหมือนกับหลายประเทศ เช่น ยุโรป, UAE และอิสราเอล ที่กำลังเดินหน้าพัฒนา CBDC อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ การเรียกร้องของจีนนั้นเรียกได้ว่าเป็นการเข้ามาในจังหวะที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะปัจจุบันนักลงทุนทั่วโลกเริ่มเบือนหน้าหนีจากดอลลาร์สหรัฐฯ มากขึ้น หลังจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มใช้นโยบายภาษีอย่างหนักกับหลายประเทศ ทำให้หลายฝ่ายหันมาสนใจสกุลเงินทางเลือก เช่น ยูโรและหยวน แทน
ที่มา : Cryptopolitan