เมืองชิงเต่า ประเทศจีน กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งในหมู่นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ หลังเปิดตัวบาร์เบียร์สุดล้ำที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติหรือบรรยากาศ แต่ยังนำเทคโนโลยีการกำหนดราคาสินค้าแบบไดนามิก มาใช้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง ภายใต้แนวคิดที่ว่า “เบียร์ก็เทรดได้เหมือนหุ้น”
บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณถนนคนเดินไถ่ตง จุดศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืนของเมือง โดยไฮไลต์ของบาร์เบียร์แห่งนี้คือ เครื่องจำหน่ายเบียร์สุดล้ำขนาดสูง 3 เมตร ที่สามารถจำหน่ายเบียร์ได้แบบ 360 องศา นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเบียร์จากหลากหลายแบรนด์ที่มีให้เลือกถึง 30 ชนิด เครื่องนี้จะทำงานโดยอิงแนวคิดเดียวกับตลาดหลักทรัพย์คือ การกำหนดราคาจากกลไกของดีมานด์และซัพพลาย หากมีผู้ซื้อเบียร์ชนิดใดมาก ราคาก็จะขยับขึ้น ส่วนเบียร์ที่ขายได้น้อย ราคาก็จะลดลงตาม
บาร์เบียร์แห่งนี้มีระบบราคาแบบไดนามิก และจะถูกรีเซ็ตทุกๆ 10 นาที โดยทุกครั้งที่มีคนสั่งเบียร์ชนิดใดมาก ๆ ระบบจะปรับราคาขึ้นอัตโนมัติ ในขณะที่แบรนด์ที่ขายได้น้อยก็จะถูกปรับราคาลงเพื่อจูงใจลูกค้า ราคาเบียร์จะมีการเปลี่ยนแปลงทุก ๆ 5–10 นาที และจะรีเซ็ตกลับสู่ราคาพื้นฐานใหม่ในทุกเช้า เพื่อให้ทุกคนได้เริ่มต้นเล่นเกมใหม่ทุกวัน สร้างความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางการซื้อขายในตลาดหุ้นจริง ๆ
ภาพผู้คนที่ยืนจ้องจอรอ “ราคาดิ่ง” ก่อนจะรีบกดสั่ง กลายเป็นภาพชินตาของร้านในช่วงสุดสัปดาห์ มีการเปรียบเทียบกันขำ ๆ ว่านี่อาจเป็นการ “DCA เบียร์” หรือ “ตั้งจุดซื้อเบียร์” แบบนักลงทุนตัวจริง โดยในช่วงเทศกาลเรือมังกรที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้าชมกว่า 10,000 คนต่อวัน และยอดเบียร์ที่ขายได้ทะลุ 1.2 ล้านมิลลิลิตร
เบื้องหลังแนวคิดนี้คือ การผสมผสานเทคโนโลยีกับพฤติกรรมผู้บริโภคในรูปแบบ Gamification หรือการเปลี่ยนประสบการณ์ธรรมดาให้กลายเป็นเกม เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วมกับราคา และเกิดความสนุกระหว่างเลือกดื่มเบียร์ในแต่ละแก้ว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่กระตุ้นทั้งยอดขายและไวรัลได้ในเวลาเดียวกัน
ไอเดียนี้ได้รับความสนใจจากภาครัฐท้องถิ่น โดยมองว่าการใช้เทคโนโลยีมาผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น สามารถสร้างแรงดึงดูดใหม่ให้กับพื้นที่เชิงพาณิชย์ และอาจกลายเป็นต้นแบบให้กับเมืองอื่น ๆ ในอนาคต ที่ต้องการพลิกฟื้นการท่องเที่ยวด้วยแนวคิดสร้างสรรค์
หากแนวคิดนี้มาถึงไทย เชื่อได้เลยว่าบาร์บางแห่งอาจเริ่มมีระบบ “กราฟเบียร์” พร้อมคนทำเพจวิเคราะห์แนวรับแนวต้านประจำวัน และประโยคไวรัลใหม่อย่าง “ติดดอยเบียร์” ก็คงกลายเป็นศัพท์ฮิตในวงการสายดื่มไม่แพ้คริปโตแน่นอน
ที่มา:Asiabrewersnewtwork