<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ครั้งแรกของโลก! เปิดตัว “USDB” เหรียญ Stablecoin ดอลลาร์บน Bitcoin Blockchain

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แม้ว่า Bitcoin จะถูกยกให้เป็นเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ในอีกด้านหนึ่ง ระบบนิเวศของมันกลับยังขาด “เครื่องมือทางการเงินพื้นฐาน” ที่สำคัญอย่าง Stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์โดยตรงแบบที่เชนอื่นมีมานานแล้ว เช่น Ethereum หรือ Solana ที่เต็มไปด้วย USDC และ USDT ให้ใช้งานอย่างแพร่หลาย

แต่ล่าสุด Flashnet แพลตฟอร์ม Dex คริปโต , Brale สถาบันการเงินสหรัฐฯ ที่ได้รับใบอนุญาต รวมถึง Magic Eden ตลาด NFT ชื่อดัง กำลังจะเปลี่ยนภาพจำเหล่านั้นไปตลอดกาล ด้วยการเปิดตัว USDB เหรียญ Stablecoin ที่ถูกสร้างขึ้นแบบ “Native” บนเครือข่าย Bitcoin โดยตรง 

Flashnet ระบุว่า USDB จะถูกสร้างขึ้นบน Layer-2 ของ Bitcoin ที่มีชื่อว่า Spark ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ Brale โดยตัวเหรียญจะมีสินทรัพย์จริงหนุนหลังแบบ 1:1 กับดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างโปร่งใส การร่วมมือกับ Magic Eden ในครั้งนี้ยังเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องดอลลาร์เข้าสู่ระบบของ Bitcoin โดยตรง โดยไม่ต้องพึ่ง wrapped tokens หรือสะพานข้ามเชน (bridges) ซึ่งอาจช่วยดึงดูดผู้ใช้และนักพัฒนาที่เคยหันไปใช้เชนอื่นอย่าง Ethereum หรือ Solana ให้กลับมาสนใจระบบนิเวศของ Bitcoin อีกครั้ง

Ethan Marcus ผู้ก่อตั้ง Flashnet กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “USDB คือเหรียญ fiat-backed ตัวแรกที่เป็นของ Bitcoin จริง ๆ ไม่ใช่แค่เหรียญห่อแบบที่เคยเห็นกัน” ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ใช้จะสามารถเทรดคู่ BTC/USDB บนเชน Bitcoin ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่าน CEX หรือเชนอื่น ๆ อีกต่อไป

การมาของ USDB จะช่วยให้ทั้งนักเทรด นักลงทุน และนักพัฒนาสามารถเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินอย่าง Stablecoin ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้มีการบริหาร Treasury และการสร้าง Yield บน Bitcoin โดยไม่ต้องออกจากระบบนิเวศดั้งเดิม ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

Magic Eden เองก็เตรียมจะเปิดใช้งาน USDB บนแพลตฟอร์มของตน ทั้งในรูปแบบ Mobile และ Dapp โดยจะมี Liquidity Pools ที่เปิดให้สลับ BTC ↔ USDB โดยตรง รวมถึงการให้บริการ On-ramp จากเงิน Fiat ไปสู่ BTC ผ่าน USDB อีกด้วย

ในภาพรวม การเปิดตัว USDB อาจไม่ใช่แค่ Stablecoin ธรรมดา แต่มันคือจุดเริ่มต้นของระบบการเงินที่มี “ดอลลาร์” และ “ความกระจายศูนย์” อยู่ร่วมกันบนโครงสร้างที่มั่นคงที่สุดในโลกอย่าง Bitcoin


ที่มา : Decrypt