OnlyFans ได้สั่งแบนบัญชีของ Bonnie Blue ออกจากแพลตฟอร์มอย่างถาวร ซึ่ง Bonnie Blue คือเซเลบออนไลน์ ที่เคยโด่งดังจากแสดงสุดฉาวโฉ่กับผู้ชาย “1,000 คน” ทำให้เธอต้องเจอกับบทลงโทษขั้นสูงสุด
แม้ว่าเธอจะเรียกนำความสนใจและรายได้ จำนวนมหาศาลมาสู่แพลตฟอร์ม แต่ OnlyFans ก็ตัดสินใจแบนเธอโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นการทำลายธุรกิจทั้งหมดของเธอด้วยการตัดสินใจเพียงครั้งเดียว นี่คือความเป็นจริงที่โหดร้ายของ Web2 ไม่ว่าคอนเทนครีเอเตอร์จะทำงานหนักแค่ไหน พวกเขาก็จะไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย
SUBBD ($SUBBD) นำเสนอเส้นทางที่ดีกว่า ในฐานะแพลตฟอร์ม Web3 ที่สร้างขึ้นเพื่อครีเอเตอร์โดยเฉพาะ โดย SUBBD มอบการเป็นเจ้าของที่แท้จริงให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา กลุ่มเป้าหมาย หรือกระแสรายได้ โดยไม่ต้องเผชิญกับความกังวลเรื่องการถูกแบนกะทันหัน หรือการเซ็นเซอร์จากองค์กรใดอีกต่อไป
นี่คือระบบที่ครีเอเตอร์สามารถดำเนินธุรกิจของตนเองได้อย่างอิสระ ไม่ใช่แค่การเช่าพื้นที่บนแพลตฟอร์มของคนอื่นอีกต่อไป
ปัจจุบัน แพลตฟอร์มนี้เป็นแหล่งรวมของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่สร้างรายได้สูงกว่า 2,000 ราย โดยมีฐานแฟนคลับรวมกันมากกว่า 250 ล้านคน และโทเค็น SUBBD ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์มนี้ ขับเคลื่อนทุกสิ่ง ตั้งแต่การชำระเงิน, การ Staking ไปจนถึงการเข้าถึงของแฟนคลับและการกำกับดูแล
ขณะนี้โปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้นของ SUBBD กำลังดำเนินอยู่ โดยโทเค็น SUBBD มีราคา ซื้อขายอยู่ที่ 0.0557 ดอลลาร์ต่อโทเค็น แต่เหลือเวลาเพียงสองวันเท่านั้น ก่อนที่ราคาจะปรับขึ้นสำหรับการลงทุนในรอบถัดไป
ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI และคริปโต การยึดติดกับแพลตฟอร์ม Web2 ที่ล้าสมัย ไม่ใช่แค่ความเสี่ยงอีกต่อไป แต่เป็นความผิดพลาด ซึ่ง SUBBD คือวิวัฒนาการขั้นต่อไปของวงการนี้

จากคนดังในโลกออนไลน์ สู่การถูกถอดออกจากแพลตฟอร์มแบบสายฟ้าแลบ
ลองจินตนาการถึงความเสี่ยงทางร่างกาย จิตใจ และชื่อเสียงของคุณในการทำคอนเทนต์ การที่จะร่วมหลับนอนกับผู้ชายเป็น 1,000 คน เพียงเพื่อสร้างปรากฏการณ์บนอินเทอร์เน็ตและตอบสนองความกระหายในการเสพคอนเทนต์ของคนทั่วโลก คือสิ่งที่ Bonnie Blue ดาราหนังผู้ใหญ่ชาวอังกฤษทำ
ถึงแม้ว่าการแสดงนั่นจะไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้เธอมีรายได้สูงถึง 2.1 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มันช่วยจุดกระแสและสร้างฐานผู้ติดตามให้เธอได้อย่างมหาศาลจริงๆ
การพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว และการถูกแบนจนตกต่ำลงอย่างกะทันหันของเธอ ได้กลายมาเป็นบทเรียนและ สิ่งเตือนใจสำหรับทุกคนที่คิดจะเดินตามรอยเส้นทางนี้
ซึ่ง OnlyFans ได้เข้าจัดการบัญชีของเธอ หลังจากที่เธอแอบเผยแพร่เกี่ยวกับคอนเทนต์ “Petting Zoo” ซึ่งเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่าและสุดขั้ว
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน บอนนีวางแผนที่จะเปลือยกาย ถูกมัดในกล่องแก้ว และเชิญผู้ชาย 2,000 คนมาทำอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ แหล่งข่าวกล่าวว่า นั่นเป็นการกระทำที่เกินขีดจำกัดไปไกลมาก
OnlyFans ยืนยันการแบนธุรกิจ และการควบคุมของครีเอเตอร์ใน Web2
OnlyFans ได้ยืนยัน การแบนบัญชี Bonnie Blue โดยชี้แจงว่า การแสดงผาดโผนของเธอละเมิดนโยบายการใช้งานของชุมชนที่จะยอมรับได้ (Acceptable Use Policy) ของแพลตฟอร์ม ซึ่ง “เนื้อหาที่เกี่ยวกับการท้าทายขีดจำกัดของมนุษย์ไม่ได้รับอนุญาต… และการฝ่าฝืนข้อกำหนดในการให้บริการของเรา ส่งผลให้เนื้อหาหรือบัญชีถูกปิดใช้งาน”
ภายในพริบตาธุรกิจของ Bonnieและรายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อเดือนก็หายไปในทันที
ซึ่งเธออาจจะสำรวจแพลตฟอร์ม Web2 และทางเลือกอื่น ๆ ในตอนนี้ได้ แต่ปัญหาหลักยังคงอยู่ เนื่องจากคอนเทนต์ครีเอเตอร์ยังคงไม่ได้เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม ข้อมูล หรือโชคชะตาของตนเอง จนกระทั่ง SUBBD ได้ถือกำเนิดขึ้น
ตราบใดที่ที่ดินมันไม่ใช่ของคุณ คุณก็โดนรื้อทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ บทเรียนจาก Bonnie Blue และ Web2 สู่ทางออกของ SUBBD ที่กำลังมอบให้ครีเอเตอร์ได้เป็นเจ้าของ
กรณีของ Bonnie Blue พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เมื่อคุณสร้างธุรกิจบน “ที่ดิน” ของคนอื่น พวกเขาก็สามารถ “รื้อถอน” ที่ดินตรงนั้นได้ทุกเมื่อที่ต้องการ OnlyFans ก็เช่นเดียวกับแพลตฟอร์ม Web2 ส่วนใหญ่ มีอำนาจเบ็ดเสร็จทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกฎการสร้างรายได้ ข้อจำกัดด้านเนื้อหา หรือแม้กระทั่งการเข้าถึงผู้ชมของคุณ โดยครีเอเตอร์เป็นเพียงผู้เช่าในระบบที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้
SUBBD ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Web3 ซึ่งมอบอำนาจการเป็นเจ้าของที่แท้จริงให้กับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ ไม่ว่า จะเป็นเนื้อหา รายได้ และแฟนคลับ ทั้งหมดนี้จะอยู่ในระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจที่ครีเอเตอร์ไม่ต้องอยู่ภายใต้การแบนตามอำเภอใจหรือนโยบายที่ไม่โปร่งใสของแพลตฟอร์มใดๆอีกต่อไป
แพลตฟอร์มนี้ขับเคลื่อนโดย โทเค็น SUBBD ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญ ที่ปลดล็อกฟีเจอร์ที่เสริมสร้างการควบคุม ความสามารถในการขยายขนาด และส่งเสริมการมีส่วนร่วมโดยตรงกับแฟนคลับ
- การควบคุมรายได้โดยตรง: การชำระเงินแบบ On-chain หมายถึงค่าธรรมเนียมที่น้อยลง และไม่มีคนกลาง ครีเอเตอร์สามารถเก็บเกี่ยวรายได้เข้าของตนเองได้มากขึ้น
- อำนาจอธิปไตยของผู้ชม: การเข้าถึงเนื้อหาแบบ Token-gated ช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างชุมชนแฟนคลับที่แท้จริง ซึ่งจะไม่ถูกแบน หรือถูกยึดไปแบบไม่เป็นธรรมอีกต่อไป
- เครื่องมือ AI สำหรับครีเอเตอร์: ทำงานที่น่าเบื่อหน่ายซ้ำซากให้เป็นระบบอัตโนมัติ เช่น การตั้งเวลาโพสต์ การบริหารจัดการงานธุรการ และการจัดการแฟนคลับด้วยระบบ AI ที่ติดตั้งเข้ามาในตัวระบบ เพื่อให้ครีเอเตอร์ใช้เวลากับเรื่องการจัดการน้อยลง และมีเวลามากขึ้นในการเชื่อมต่อกับแฟนคลับ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญมากที่สุด
- การ Staking + รางวัล: แฟนคลับสามารถ Stake โทเค็น เพื่อสนับสนุนครีเอเตอร์ รับสิทธิพิเศษ และมีส่วนร่วมในสิ่งจูงใจที่ครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์ม
ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI และคริปโต การยึดติดกับแพลตฟอร์ม Web2 ที่ล้าสมัยไม่ใช่แค่ความเสี่ยงอีกต่อไป แต่เป็นความผิดพลาด
SUBBD เป็นตัวแทนของวิวัฒนาการขั้นต่อไปในวงการสร้างสรรค์ ซึ่งมอบอนาคตที่ครีเอเตอร์เป็นเจ้าของอย่างแท้จริง
คุณคิดว่า การที่ครีเอเตอร์มีอำนาจควบคุมเนื้อหา และรายได้ของตนเองอย่างเต็มที่จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้อย่างไรบ้าง ?
ซึ่งจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ SUBBD คือ การกำกับดูแล (Governance) บนแพลตฟอร์ม SUBBD ผู้ถือโทเค็น รวมถึงทั้งแฟนคลับและครีเอเตอร์ จะมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป นั่นหมายถึงการมีสิทธิ์โหวตอย่างแท้จริงในเรื่องต่างๆ เช่น:
- ฟีเจอร์ใดของแพลตฟอร์มที่จะได้รับการจัดลำดับความสำคัญ ชุมชนสามารถโหวต เพื่อพัฒนาหรือปรับปรุงฟีเจอร์ที่พวกเขาต้องการมากที่สุด
- ใครจะได้รับการอนุมัติให้เป็นครีเอเตอร์ที่ได้รับการยืนยันรายใหม่ ชุมชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ คัดเลือกครีเอเตอร์ที่จะเข้ามาในแพลตฟอร์ม
- กิจกรรมหรือรูปแบบของชุมชนใดที่จะเปิดตัว ถือเป็นการตัดสินใจร่วมกันเกี่ยวกับกิจกรรมที่สร้างการมีส่วนร่วมและส่งเสริมชุมชน
- ครีเอเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI คนใด จะก้าวขึ้นสู่ระดับสูง ชุมชนสามารถมีส่วนร่วมในการส่งเสริม และให้รางวัลแก่ครีเอเตอร์ AI ที่มีคุณภาพ
- ใครจะได้เข้าร่วมครีเอเตอร์ระดับพิเศษ HoneyHive เป็นการตัดสินใจร่วมกันในการมอบสิทธิ์พิเศษให้กับครีเอเตอร์ที่มีผลงานโดดเด่น
บน SUBBD อนาคตของแพลตฟอร์มไม่ได้ถูกตัดสินโดยองค์กร แต่ถูกตัดสินโดยชุมชน ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มเอง
การเป็นเจ้าของ SUBBD คือการเป็นเจ้าของอนาคตของระบบเศรษฐกิจคอนเทนต์ครีเอเตอร์
การเปลี่ยนผ่านไปสู่ Web3 นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ครีเอเตอร์และผู้ใช้งานกำลังเลือกแพลตฟอร์มที่พวกเขาจะสนับสนุนอย่างพิถีพิถันมากขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งที่พวกเขากำลังมองหาคือ สิ่งที่แพลตฟอร์ม Web2 ไม่สามารถให้ได้
หากคุณเชื่อว่า เศรษฐกิจคอนเทนต์ครีเอเตอร์กำลังมุ่งหน้าสู่ Web3 การเป็นเจ้าของ SUBBD ในตอนนี้ก็หมายถึง การวางตำแหน่งตัวเองอยู่แถวหน้าของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ ถือเป็นโอกาสของคุณที่จะได้เป็นเจ้าของส่วนหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานของผู้สร้างสรรค์เนื้อหาในอนาคต
เมื่อครีเอเตอร์จำนวนมากขึ้นตัดสินใจย้ายมาที่ SUBBD ผู้ชมของพวกเขาก็จะตามมาด้วยเช่นกัน
การถือครอง SUBBD ในช่วงโปรเจกต์เริ่มต้น จะทำให้คุณได้สิทธิ์การเข้าถึงโทเค็นที่มีประโยชน์ใช้สอยจริงในระบบนิเวศ ตั้งแต่การขับเคลื่อนธุรกรรม และการ Staking ไปจนถึงการปลดล็อกการกำกับดูแล และแรงจูงใจในการเติบโต
ดังนั้น SUBBD ไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนของอนาคตของเศรษฐกิจครีเอเตอร์เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสของคุณที่จะได้ เป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของอนาคตนั้นด้วย
วิธีเข้าร่วมโทเค็น SUBBD
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์โปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้นของ SUBBD เพื่อเข้าร่วม SUBBD token
ขณะที่ Best Wallet ถือเป็นกระเป๋า Web3 ที่ถูกแนะนำ สำหรับแพลตฟอร์มการสมัครสมาชิกของครีเอเตอร์บน Web3 นี้ ซึ่งรองรับการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ และแสดงข้อมูลได้อย่างชัดเจนตลอดโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้นและหลังจากเข้าร่วมไปแล้ว
โทเค็น SUBBD ที่เข้าร่วมใหม่ สามารถนำไป Staking เพื่อรับผลตอบแทนคงที่ 20% APY เพื่อเพิ่มจำนวนโทเค็นที่คุณถือครองได้อย่างง่ายดาย
หากใครสนใจ สามารถติดตามข่าวสารและอัปเดตของ SUBBD ได้ทาง X, Instagram และ Telegram หรือเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ SUBBD
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | ✔️ |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | ❌ |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | ✔️ |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | ❌ |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | ❌ |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | ✔️ |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | ❌ |
| 9. สัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์

