หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังถือครอง Bitcoin, altcoin อยู่ในขณะนี้ การวางแผนส่งต่อทรัพย์สินดิจิทิทัลให้คนรุ่นหลัง ถือจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะคริปโตนั้นแตกต่างจากเงินในบัญชีธนาคาร
คริปโตถูกควบคุมด้วย private key และ seed phrase ดังนั้นหากคุณเสียชีวิตไป โดยที่ไม่มีใครรู้รหัส ทรัพย์สินเหล่านั้นจะสูญหายไปตลอดกาล ซึ่งในแต่ละปีมี Bitcoin มูลค่าหลายล้านเหรียญที่หายไป เพราะเจ้าของลืมรหัสผ่าน หรือไม่ทิ้งข้อมูลไว้ให้ทายาท ซึ่งปัจจุบันมี Bitcoin ประมาณ 1.57 ล้าน BTC หรือคิดเป็น 7.5% ของ Bitcoin ที่มีอยู่ทั้งหมด ได้หายสาบสูญไปตลอดกาล โดยที่ไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้

ในบทความนี้ทางสยามบล็อกเชนจะพาคุณไปทำแผนมรดกคริปโตแบบจับมือทำ ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เพื่อให้คุณมั่นใจว่า ทรัพย์สินดิจิทัลของคุณจะถูกส่งต่ออย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย
ขั้นตอนที่ 1: รวบรวมและจัดทำรายการสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณ
จดบันทึกรายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น
- ประเภทของสินทรัพย์ (Bitcoin, Ethereum, NFT, DeFi)
- ที่เก็บ (Wallet, Exchange)
- รายละเอียดสำคัญที่ต้องการให้ผู้รับมรดกรู้ (ชื่อ Wallet, ที่อยู่กระเป๋า ฯลฯ)
แนะนำให้จัดทำเป็นไฟล์ลับหรือกระดาษเก็บไว้ในที่ปลอดภัย
ขั้นตอนที่ 2: ปรึกษาทนายความเพื่อจัดทำเอกสารทางกฎหมาย
- นัดพบทนายที่มีความรู้เรื่องมรดกและสินทรัพย์ดิจิทัล
- จัดทำเอกสาร เช่น พินัยกรรม (Will) หรือ Trust ที่ระบุชัดเจนว่า สินทรัพย์ดิจิทัลของคุณมีอะไรบ้าง , ใครจะได้รับมรดก, วิธีการเข้าถึงและบริหารจัดการ
- เอกสารนี้จะช่วยให้คำสั่งของคุณมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายและลดปัญหาข้อพิพาทในอนาคต
ขั้นตอนที่ 3: จัดการกับ Private Key และ Seed Phrase อย่างปลอดภัย
- ห้ามเขียนหรือเก็บ Key ไว้ในพินัยกรรมโดยตรง เพราะเป็นเอกสารสาธารณะ
- ใช้วิธีเก็บแบบปลอดภัย เช่น เก็บในกล่องนิรภัยที่ธนาคาร, ไฟล์เข้ารหัส (Encrypted File) ที่ถ่ายทอดเฉพาะคนที่ไว้ใจ, ระบบแบ่งกุญแจ (Shamir’s Secret Sharing) ให้แบ่งกุญแจเป็นส่วนๆ
- ให้คำแนะนำชัดเจนในเอกสารว่า “กุญแจเก็บที่ไหน” และ “ใครมีสิทธิ์เข้าถึง”
ขั้นตอนที่ 4: ใช้เทคโนโลยีช่วยในการโอนมรดก (ถ้ามี)
- พิจารณาใช้ Smart Contract หรือ Dead Man’s Switch บนแพลตฟอร์มที่รองรับ เช่น Ethereum
- Smart Contract จะช่วยโอนสินทรัพย์โดยอัตโนมัติเมื่อมีเงื่อนไขถูกต้อง เช่น มีใบมรณะบัตร หรือเวลาผ่านไปตามกำหนด
- แต่ไม่ควรพึ่งพาเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว ควรใช้ควบคู่กับเอกสารทางกฎหมาย
ขั้นตอนที่ 5: ให้ความรู้และมอบหมายบุคคลที่ไว้ใจได้
- สอนผู้รับมรดกหรือผู้จัดการมรดกเกี่ยวกับการใช้งาน Wallet และการรักษาความปลอดภัยเบื้องต้น
- แต่งตั้งผู้จัดการมรดก (Executor) ที่มีความรู้เรื่องคริปโต เพื่อช่วยดูแลและดำเนินการโอนถ่ายมรดกอย่างราบรื่น
ขั้นตอนที่ 6: ทบทวนและอัปเดตแผนมรดกคริปโตเป็นประจำ
- ทบทวนรายการสินทรัพย์และเอกสารทุกปี หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ เช่น ซื้อขายคริปโตเพิ่ม หรือตัวผู้รับมรดกเปลี่ยน
- ปรับแผนให้สอดคล้องกับกฎหมายและเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อให้มั่นใจว่าแผนยังคงใช้งานได้จริง
ข้อควรระวังในการวางแผนมรดกคริปโต
- หลีกเลี่ยงการเก็บ Private Key หรือ Seed Phrase ไว้บนกระดาษหรือไฟล์ที่ไม่มีการป้องกัน
- อย่าใช้บริการเก็บคริปโตใน Exchange เพียงอย่างเดียว เพราะอาจเกิดปัญหาเข้าถึงไม่ได้หาก Exchange ปิดตัวลง
- อย่าลืมให้คำแนะนำชัดเจนกับผู้รับมรดก เพราะไม่มีความรู้จะทำให้เข้าถึงสินทรัพย์ไม่ได้
ที่มา : cointelegraph

