สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐฯ (SEC) ได้อนุมัติการแปลงสภาพกองทุนดัชนีคริปโตของ Bitwise อย่างเป็นทางการ แต่กลับมีคำสั่งให้ระงับการดำเนินการแทบจะทันทีหลังจากนั้น
ในวันอังคารที่ผ่านมา (ตามเวลาสหรัฐฯ) แผนกการซื้อขายและตลาดของ SEC ได้อนุมัติ ‘การอนุมัติแบบเร่งด่วน’ ให้กับกองทุน Bitwise 10 Crypto Index ETF ตามเอกสารที่ยื่น อย่างไรก็ตาม Sherry R. Haywood ผู้ช่วยเลขาธิการของ SEC ได้ ระงับการดำเนินการดังกล่าวในภายหลัง และกล่าวว่าคณะกรรมการจะทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง
Haywood กล่าวว่าในจดหมายว่า จดหมายฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้ท่านทราบว่า ตามกฎข้อ 431 แห่งกฎปฏิบัติการของคณะกรรมการ, 17 CFR 201.431, คณะกรรมการจะทบทวนการดำเนินการที่ได้รับมอบอำนาจตามกฎข้อ 431(e) และคำสั่งลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2025 ถูกระงับไว้จนกว่าคณะกรรมการจะสั่งการเป็นอย่างอื่น
กองทุน 10 Crypto Index Fund (BITW) ของ Bitwise ถูกออกแบบมาเพื่อรวมโปรเจกต์คริปโตชื่อดังอย่าง Bitcoin, Ethereum, XRP, Solana, Polkadot และอื่น ๆ ไว้ในกองทุนเดียวกัน ทว่าเหตุการณ์ที่ SEC สั่งระงับกองทุนดังกล่าวก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Bitwise ต้องเผชิญกับอุปสรรคจากหน่วยงานกำกับดูแล
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ไม่นาน ทาง SEC ก็ได้มีคำสั่งให้ระงับกองทุน Grayscale Digital Large Cap Fund LLC ที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยเป็นการประกาศอนุมัติออกมาก่อนแล้วสั่งระงับตามมาในภายหลัง
ด้าน Scott Johnsson จาก Van Buren Capital และนักวิเคราะห์ Bloomberg อย่าง James Seyffart ต่างได้ออกมาให้ความเห็นในกรณีด้วย
ทั้งสองมองว่า เป็นไปได้ที่ SEC อาจรู้อยู่แล้วว่าการอนุมัติครั้งนี้จะไปกระทบกับท่าทีของ Caroline Crenshaw สมาชิกคณะกรรมาธิการจากพรรคเดโมแครตซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการต่อต้านคริปโตอย่างแข็งกร้าว และเธออาจใช้โอกาสนี้ในการ “ขัดขวาง” อีกครั้งหรืออีกทางหนึ่ง นี่อาจเป็นแผนที่ถูกวางไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไทม์ไลน์การอนุมัติข้อเสนอหลายรายการที่กำลังรอคิวอยู่
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่า เหตุผลที่ถูกนำมาใช้อ้างในการสั่งระงับครั้งนี้กลับดูเป็น “ตลกร้าย” มากกว่าจะมีความสมเหตุสมผล โดยเฉพาะในขณะที่ Paul Atkins ประธาน SEC นั่งเป็นผู้นำอยู่ในโต๊ะเจรจา
Seyffart ยังเสริมว่า ทาง SEC อาจกำลัง “ยื้อเวลา” เพื่อรอให้เกิดกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนขึ้นสำหรับกองทุนคริปโต ETF โดยคาดหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยกำหนด “มาตรฐานใหม่” ในการอนุมัติในอนาคต และอาจช่วยลดระยะเวลาการพิจารณาแบบเดิมที่ใช้เวลานานถึง 240 วัน ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
ที่มา : The Block

