ตลาดคริปโตตอนนี้กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ หลัง Altcoin หลายตัวเริ่มแสดงพลัง ขณะที่ Bitcoin กลับนิ่ง ๆ ติดอยู่ในกรอบเดิม ไม่สามารถทะลุแนวต้านได้ ทั้งที่พยายามดีดตัวหลายรอบ
การที่ Bitcoin ยังคงติดอยู่ในช่วงราคา 115,600 – 119,500 ดอลลาร์ ทำให้ความมั่นใจของตลาดเริ่มสั่นคลอน นักวิเคราะห์อย่าง Michaël van de Poppe ก็มองว่าตลาดยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
หาก BTC ทะลุกรอบขึ้นไปได้ อาจได้เห็นจุดสูงสุดใหม่ แต่ถ้าหลุดแนวรับ 115,600 ดอลลาร์ มีโอกาสโดนลากลงไปลึกถึงโซน 110,000 – 112,000 ดอลลาร์ ซึ่งตรงนี้เป็นโซนที่มีสภาพคล่องสะสมอยู่เพียบ และอาจมีแรงซื้อกลับเข้ามา
แต่ถ้าโดนกวาดลงจริง เหรียญ Altcoin ที่ผันผวนสูงก็อาจโดนผลกระทบหนักตามไปด้วย เพราะโดยธรรมชาติ มักเคลื่อนไหวตามทิศทางของ Bitcoin อยู่แล้ว
ฝั่ง Ethereum ตอนนี้กลับมาแรงสุดขีด วอลุ่มการเทรดแซง Bitcoin ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี สะท้อนกระแสที่นักลงทุนเริ่มเบนเป้าจาก BTC มาที่ ETH และ Altcoin ตัวอื่นมากขึ้น
ฝั่ง Altcoin เองก็กำลังคึกไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ Ethereum, XRP รวมถึงกลุ่มเหรียญ AI, DeFi, เกม และมีมคอยน์ที่เริ่มขยับแรงในช่วงนี้
ข้อมูลจาก Ether Wizz ระบุว่า ยอด Open Interest ของ ETH และ XRP พุ่งแตะ 45,000 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นสัญญาณว่าบรรดานักเก็งกำไรกำลังมั่นใจและเริ่มเข้ามาลุยมากขึ้น
จุดที่น่าสนใจที่สุดคือ Ethereum สร้างสถิติใหม่ในรอบ 2 ปี ด้วยการมียอดเทรด Perpetual Futures แซงหน้า Bitcoin ได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022
สิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่มันสะท้อนการเปลี่ยนพฤติกรรมของนักลงทุน ที่เริ่มหันมาโฟกัส ETH มากขึ้น แทนที่จะกระจุกอยู่ที่ BTC เหมือนเมื่อก่อน
อีกมุมหนึ่งที่ต้องจับตา คือเหล่าวาฬ ETH ยังคงถือเหรียญแน่น ไม่ขยับขายออกมา โดยมีต้นทุนเฉลี่ยอยู่เหนือระดับ $2,400 จากข้อมูล Heatmap
ตรงนี้อาจแปลได้ว่า พวกเขายังมั่นใจในอนาคตของ Ethereum แต่ถ้าราคากลับตัวเป็นขาลงเมื่อไร จุดนี้ก็อาจกลายเป็นโซนที่เกิดแรงขายมหาศาลเช่นกัน
ข้อมูลจาก CryptoRank เผยให้เห็นว่า Bitcoin Dominance เริ่มลดลง แม้ราคาจะยังวิ่งอยู่ในแนวขาขึ้น แต่เม็ดเงินกลับเริ่มไหลไปฝั่ง Altcoin มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
แรงซื้อที่หลั่งไหลเข้า Altcoin ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยเชิงบวกของฝั่งสหรัฐฯ เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามผ่านกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวกับคริปโต
ผลของกฎหมายนี้คือการสร้างกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจนขึ้น ทำให้นักลงทุนรายใหญ่และสถาบันเริ่มกล้าขยับตัวในตลาด Altcoin มากขึ้น และนั่นก็ยิ่งเสริมแรงบูมให้เหรียญกลุ่มนี้พุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดคริปโตกำลังเปลี่ยนถ่ายจุดสนใจจาก Bitcoin ไปสู่ Altcoin อย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่รวมถึงวอลุ่มการเทรด พฤติกรรมนักลงทุน และกระแสเงินทุนทั่วโลก
ที่มา : coinedition