<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สตรีมเมอร์สุดแสบ ! ดัดหลังสแกมเมอร์  หลอกให้เสียเวลาถอน Bitcoin ร่วม 4,000 ชั่วโมง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การหลอกลวงจากมิจฉาชีพในยุคนี้มีหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการใช้ Bitcoin ATM ในต่างประเทศเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงผู้คน แต่มีสตรีมเมอร์สุดแสบคนหนึ่งที่ชื่อว่า Kitboga ที่คิดแผนเด็ดในการซ้อนแผนให้มิจฉาชีพเหล่านี้ต้องปวดหัวไปตามๆ กัน

เรื่องมันเริ่มจาก Kitboga และทีมงาน 12 คน ได้ไอเดียในการสร้างคอนเทนต์เพื่อหลอกลวงสแกมเมอร์ โดยไม่เพียงแต่ทำให้พวกมันเสียเวลาไปฟรี ๆ แต่ยังเก็บหลักฐานเพื่อนำไปหยุดขบวนการเหล่านี้ได้อีกด้วย บ่อยครั้งที่มิจฉาชีพโทรมาหา Kitboga และขอให้เขาไปที่ Bitcoin ATM เพื่อทำการโอนเงิน พอถึงจุดนั้น Kitboga ก็จะไปที่ ATM จริง แต่เอาใบเสร็จที่ทำการแก้ไข QR code และภาพให้ไปยังเว็บเทรดปลอมแทน เพื่อหลอกให้พวกมิจฉาชีพไปติดกับดักในเว็บที่ไม่มีทางถอนเงินได้

แผนการนี้ทำงานได้ดีเกินคาด ตลอดเวลากว่า 1 ปี Kitboga สามารถดักสแกมเมอร์ได้มากถึง 500 ราย ซึ่งมิจฉาชีพเหล่านี้ต้องเสียเวลาไป รวม 164 วัน 17 ชั่วโมง หรือเกือบ 4,000 ชั่วโมง โดยพวกเขาต้องใช้เวลาเฉลี่ย 3 ชั่วโมงในการพยายามหาทางขโมยเงินจากบัญชี โดยมีสถิติสูงสุดต่อรายที่ 156 ชั่วโมง หรือ 6 วันครึ่ง ที่พวกมันต้องทุ่มเทเวลาไปในกับดักของ Kitboga แบบไม่มีทางออก

ข้างในเขากับดักมีอะไร?

Kitboga เผยว่าเว็บไซต์ปลอมที่สร้างขึ้นมาหลอกจะเต็มไปด้วยขั้นตอนสุดหงุดหงิดน่าปวดหัว เช่นการแก้ปริศนา CAPTCHA แบบบ้าบอ เช่น มีถั่วกี่เม็ดในภาพนี้ คลื่นลูกนี้สูงกี่เมตร หรือให้เล่นเพลงบนคีย์บอร์ด

หากมิจฉาชีพไม่ยอมแพ้และแก้ปริศนาได้พวกเขาจะถูกนำทางมายังช่องที่ให้กรอกที่อยู่กระเป๋า Bitcoin ซึ่งเมื่อกดไประบบจะขึ้นมาว่าเกิดความผิดพลาดในขั้นตอนการดำเนินงานและให้ติดต่อเข้ามายังฮอตไลน์เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

Kitboga กล่าวว่าความสนุกมันเกิดขึ้นที่ตรงนี้ เพราะสแกมเมอร์จะถูกบังคับให้ต้องมานั่งคุยกับระบบคอลเซ็นเตอร์อัตโนมัติหลายขั้นตอนกว่าจะสามารถไปบอกเลข 4 ตัวท้ายของกระเป๋า Bitcoin ได้ซึ่งระบบก็ถูกเซ็ตมาแล้วให้ฟัง 4 ตัวท้ายพลาดเสมอจนทำให้สแเกมเมอร์หัวร้อนและต้องเลือกที่จะต้องติดต่อพนักงานซึ่งเป็นมนุษย์

การแก้เผ็ดของเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าการปล่อยให้สแกมเมอร์ถือสายรอพนักงานที่จะไม่มีวันติดต่อกลับมาเป็นเวลานานเป็นชั่วโมง ซึ่งบางครั้งเขาก็เลือกที่จะเล่นเสียงรอสายเป็นเสียงพื้นหลังต่าง ๆ เช่นเครื่องแฟกซ์ หรือเสียงการทำงานในออฟฟิศแต่ไม่มีใครได้ยินสิ่งที่สแกมเมอร์พูดออกมาแม้แต่น้อย

มากไปกว่านั้น เขายังบังคับให้สแกมเมอร์ต้องพูดคำพูดตลก ๆ ไร้สาระเป็นระยะ เช่น “ผีตัวเหม็น-เม่นสีม่วง” เพื่อเป็นการยืนยันว่าสแกมเมอร์ยังถือสายอยู่จะได้ไม่เอาเวลาไปหลอกลวงชาวบ้าน

Kitboga กล่าวว่าเครื่องมือและแผนดังกล่าวได้ทำให้เขาสามารถรวบรวมข้อมูลจากสแกมเมอร์ได้เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานจากกล้อง หรือแม้กระทั่งที่อยู่กระเป๋าเงินที่ใช้ในการเก็บคริปโตที่โกงมา ซึ่งเขาสามารถส่งมันให้กับตำรวจได้อย่างง่ายดายเป็นความผิดพลาดที่สุดน่าขันที่ทำมาเพื่อแลกกับเงินไม่กี่หมื่นดอลลาร์

สุดท้ายนี้ เขายอมรับว่าโปรเจกต์นี้เป็นอะไรที่ยังคงสนุกมาก แม้ว่าเขาจะทำการต้มตุ๋นสแกมเมอร์มาแล้วยาวนานถึง 8 ปี จากงานอดิเรกขำขันสู่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามหลักล้าน และมียอดวิวเกินพันล้านครั้ง


ที่มา : Decrypt