<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บริษัททั่วโลกแห่ตุนคริปโตทะลุ $1 แสนล้าน – Ether กลายเป็น ‘ขุมทรัพย์’ ใหม่ที่โตเร็วกว่า Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กระแสการนำคริปโตเคอร์เรนซีเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคลังสินทรัพย์ได้วิวัฒนาการไปอีกขั้น โดยล่าสุดบริษัทมหาชนที่ดำเนินกลยุทธ์ในลักษณะนี้ได้สร้าง “คลังสินทรัพย์ดิจิทัล” ที่มีมูลค่ารวมกันสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว และท่ามกลางการเติบโตนี้ Ether (ETH) กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็น “ดาวเด่น” ดวงใหม่ที่ถูกจับตามองว่าอาจมีศักยภาพในการเติบโตที่สูงกว่า Bitcoin ในแง่ของการยอมรับจากภาคองค์กร

กระแสเงินทุนไหลเข้า-ออก Ethereum ETF (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่มา: Farside Investors

รายงานล่าสุดจาก Galaxy Research ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้เปิดเผยว่าบริษัทที่ถือครองคริปโตในคลังอย่าง Strategy, Metaplanet และ SharpLink ได้สะสมสินทรัพย์ดิจิทัลรวมกันเป็นมูลค่าเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์ โดยสิงโตส่วนใหญ่ยังคงเป็นของกลุ่มบริษัทที่ถือครอง Bitcoin ซึ่งมียอดรวมกว่า 791,662 BTC (มูลค่าประมาณ 9.3 หมื่นล้านดอลลาร์) คิดเป็น 3.98% ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด แต่สิ่งที่น่าจับตามองคือการเติบโตอย่างรวดเร็วของฝั่ง Ether ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทต่างๆ ถือครองอยู่ถึง 1.3 ล้าน ETH (มูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์) คิดเป็น 1.09% ของอุปทานทั้งหมด

การเข้าซื้อจากภาคองค์กรนี้ได้ทำให้พวกเขาได้กลายเป็นแหล่งสภาพคล่องที่สำคัญสำหรับ Ether ควบคู่ไปกับกองทุน Spot ETH ETF ในสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดเพิ่งจะสร้างสถิติมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิติดต่อกันถึง 19 วัน โดยนับตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคมเป็นต้นมา กองทุน Ether ETF ได้ดูดซับ ETH เข้าไปแล้วเป็นมูลค่าสูงถึง 5.3 พันล้านดอลลาร์

ยอดการซื้อ Ether สุทธิโดยบริษัทคลังสินทรัพย์และกองทุน ETH ETF ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน |ที่มา: Standard Chartered

ธนาคาร Standard Chartered ได้คาดการณ์ในรายงานวิจัยล่าสุดว่า กระแสเงินทุนที่แข็งแกร่งนี้อาจช่วยผลักดันให้ Ether ทะลุแนวต้านจิตวิทยาที่ 4,000 ดอลลาร์ได้ภายในสิ้นปีนี้ “เราคิดว่าในท้ายที่สุดแล้วพวกเขา (บริษัทต่างๆ) อาจจะถือครอง ETH ถึง 10% ของทั้งหมด ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น 10 เท่าจากปัจจุบัน” ธนาคารระบุ พร้อมเสริมว่าบริษัทที่ถือครอง Ether ในคลังนั้นมีศักยภาพในการเติบโตที่สูงกว่าฝั่ง Bitcoin จาก “มุมมองด้านความได้เปรียบเชิงกฎระเบียบ”

กราฟราคา ETH/USD All Time

นาย Enmanuel Cardozo นักวิเคราะห์ตลาดจากแพลตฟอร์ม Brickken ให้ความเห็นว่าการที่บริษัทชั้นนำ 10 อันดับแรกสามารถสะสม ETH ได้ถึง 1% ของอุปทานทั้งหมดนั้น ถือเป็นการ “เปลี่ยนแปลง” ในการรับรู้ของสถาบันอย่างมีนัยสำคัญ “บริษัทเหล่านี้ไม่ได้แค่ถือ ETH ไว้เฉยๆ แต่พวกเขานำมันไป Staking, ใช้เป็นหลักประกัน และผนวกรวมเข้ากับกลยุทธ์การบริหารคลังที่กว้างขึ้น” เขากล่าวกับ Cointelegraph “มันเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยเกิดขึ้นกับ Bitcoin ในช่วงแรกของการยอมรับเสียอีก” เนื่องจาก Ether เปิดโอกาสให้องค์กรสามารถเข้าถึงผลตอบแทนจากการ Staking และ “สร้างมูลค่าได้อย่างต่อเนื่อง” แม้ว่าปัจจุบันราคาของ Ether จะยังคงอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลถึง 21% แต่นาย Cardozo ก็สรุปว่ากระแสเงินทุนที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งจากภาคองค์กรและ ETF นี้ กำลังเป็นการวางรากฐานสำหรับ “ระยะเริ่มต้นของการประเมินมูลค่าใหม่ในระยะยาว” สำหรับสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

ที่มา: cointelegraph