<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Coinbase คาดตลาด Stablecoin พุ่งแตะ $1.2 ล้านล้านเหรียญ อาจสั่นคลอนตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักวิเคราะห์จาก Coinbase ได้คาดการณ์ในรายงานฉบับวันพฤหัสบดีว่า ตลาด Stablecoin ซึ่งเป็นโทเคนดิจิทัลที่ผูกกับสกุลเงินทั่วไปอย่างดอลลาร์สหรัฐ จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจนมีมูลค่าสูงถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 และอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้

การคาดการณ์ดังกล่าว ซึ่งเผยแพร่โดยฝ่ายวิจัยของ Coinbase นำโดย เดวิด ดวง (David Duong) อ้างอิงมาจากแบบจำลองสุ่ม (stochastic model) ที่จำลองเส้นทางการเติบโตที่เป็นไปได้หลายพันรูปแบบสำหรับภาคส่วน Stablecoin การเติบโตจากขนาดตลาดปัจจุบันที่ 2.7 แสนล้านดอลลาร์ ไปสู่เป้าหมายที่คาดการณ์ไว้นั้น “ต้องอาศัยการยอมรับที่เพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนโยบายที่เอื้ออำนวย” รายงานระบุ

โดยปกติแล้ว ผู้ออก Stablecoin รายใหญ่อย่าง Circle (ผู้ออก USDC) และ Tether (ผู้ออก USDT) จะถือครองตั๋วเงินคลังของสหรัฐฯ (T-bill) จำนวนมากเพื่อใช้ค้ำประกันมูลค่าของโทเคน รายงานคาดการณ์ว่า หากตลาดเติบโตถึงระดับ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์จริง จะหมายถึงการมีแรงซื้อ T-bill ใหม่เข้าสู่ตลาดประมาณ 5.3 พันล้านดอลลาร์ทุกสัปดาห์

แรงซื้อดังกล่าวอาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 เดือนลดลงได้ 2-4 basis points ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขที่เล็กน้อย แต่ถือว่ามีนัยสำคัญในตลาดเงินมูลค่า 6 ล้านล้านดอลลาร์ ที่ซึ่งการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของสถาบันได้

ในทางกลับกัน รายงานยังได้เตือนถึงความเสี่ยงจากการแห่ถอน Stablecoin จำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น หากมีการถอนเงินมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ภายใน 5 วัน อาจนำไปสู่การบังคับเทขายสินทรัพย์ค้ำประกันและทำให้สภาพคล่องในตลาด T-bill ตึงตัวได้

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของ Coinbase ชี้ว่ากฎหมายกำกับดูแล Stablecoin ฉบับล่าสุด หรือที่เรียกว่า GENIUS Act มีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมความเสี่ยงดังกล่าว กฎหมายฉบับนี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับผู้ออกและโทเคนในปี 2027 กำหนดให้ต้องมีเงินทุนสำรองแบบหนึ่งต่อหนึ่ง, มีการตรวจสอบบัญชี และมีมาตรการคุ้มครองผู้ถือในกรณีล้มละลาย แม้กฎหมายจะไม่ได้ให้สิทธิ์ผู้ออก Stablecoin เข้าถึงกลไกของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยตรง แต่ก็คาดว่าจะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการแห่ถอนจนระบบไร้เสถียรภาพได้

ที่มา: coindesk