ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีกลับมาคึกคักอีกครั้งในวันนี้ หลังดัชนี Fear & Greed Index ซึ่งเป็นตัวสะท้อนอารมณ์นักลงทุน ได้ขยับเข้าสู่โซน “โลภ” (Greed) เป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้เคลื่อนไหวอยู่ในโซน “ปกติ” (Neutral) มานานร่วมสัปดาห์
แรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการดีดตัวของราคา Bitcoin (BTC) ที่ฟื้นจากระดับต่ำสุดบริเวณ 107,000 ดอลลาร์ กลับขึ้นมายืนเหนือ 111,000 ดอลลาร์ ได้อย่างแข็งแกร่ง
โดยวันนี้ (3 ก.ย.) ดัชนี Fear & Greed Index พุ่งขึ้นแตะ 55 จุด (Greed) จากเมื่อวานที่ยังอยู่เพียง 49 จุด (Neutral) สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกของความเชื่อมั่นนักลงทุน

สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับดัชนี Fear & Greed Index นี่คือเครื่องมือวัด “อารมณ์ตลาด” โดยอาศัยข้อมูลจาก 6 ปัจจัยหลัก มาคำนวณ ได้แก่ ความผันผวนของราคา, ปริมาณการซื้อขาย, กระแสบนโซเชียลมีเดีย, ผลสำรวจความคิดเห็นนักลงทุน, สัดส่วนการครองตลาดของ Bitcoin และเทรนด์การค้นหาในอินเทอร์เน็ต ซึ่งแต่ละปัจจัยมีน้ำหนักไม่เท่ากัน
ดัชนีนี้เคยแตะ ระดับสูงสุดที่ 95 จุด ในปี 2021 (ภาวะโลภสุดขีด) และ ต่ำสุดที่ 7 จุด ในปี 2022 (ภาวะกลัวสุดขีด) ทำให้การที่ตอนนี้ค่าดัชนีขยับกลับเข้าสู่โซน “ความโลภ” ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขที่เปลี่ยนไป แต่ยังสะท้อนว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มฟื้นตัว และแรงซื้อกำลังกลับเข้าสู่ตลาดอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะที่รายงาน Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ 111,151 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.5% ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก Coinmarketcap


