<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Snorter Token กวาดยอดระดมทุนทะลุ 4.15 ล้านดอลลาร์ ก่อนเปิดตัวจริงในอีกไม่กี่สัปดาห์!

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

โอกาสที่คุณจะได้เข้าร่วมโปรเจกต์ระดมทุนช่วงเริ่มต้นที่อาจก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในบอทเทรดดิ้งบน Telegram ที่ใช้เชนชั้นนำอย่าง Solana เหลือเวลาเพียง 3 สัปดาห์สุดท้ายเท่านั้น

Snorter Bot Token (SNORT)  สามารถกวาดยอดระดมทุนไปแล้วกว่า $4.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และยังคงได้รับแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนที่เริ่มมองเห็นศักยภาพและประโยชน์ใช้สอย (Utility) ที่บอทตัวนี้ถูกออกแบบมา ทำให้ SNORT ถูกมองว่า เป็นอีกหนึ่งเหรียญคริปโตที่น่าจับตามองในปี 2025

Snorter เป็นบอทเทรดดิ้งที่สามารถทำงานในทุกสภาวะตลาด และสร้างผลกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดเด่นของบอทตัวนี้คือ ความสามารถในการค้นหาโอกาส Breakout และช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าซื้อได้ก่อน ที่นักลงทุนรายย่อยจะเข้ามาเสริมแรง นอกจากนี้ยังสามารถ คัดกรองโทเคนคุณภาพ ออกจากความวุ่นวายของตลาด เพื่อเปิดโอกาสให้นักเทรดทำกำไรได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

ความสามารถเหล่านี้ถือเป็นมาตรฐานใหม่ที่คู่แข่งในปัจจุบันยังไม่อาจเทียบได้

ทว่าเวลาสำหรับโปรเจกต์ระดมทุนช่วงเริ่มต้น เหลือเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น หากคุณต้องการเข้าร่วม SNORT ในราคา 0.1063 ดอลลาร์ ต้องรีบตัดสินใจ เพราะหลังจากนี้ การเข้าถึงโทเคนจะทำได้เฉพาะผ่านตลาดแลกเปลี่ยน ซึ่งไม่สามารถรับประกันได้ว่าราคาจะยังคงต่ำเท่านี้อีกหรือไม่

ข้อได้เปรียบของผู้เข้าร่วมโปรเจกต์ช่วงแรก

เมื่อ Snorter Bot Token เปิดตัว คู่แข่งรายใหญ่ที่จะต้องเผชิญคือ Maestro, Banana Gun, Trojan และ Bonk Bot

สิ่งที่ทำให้ Snorter แตกต่างจาก Maestro และ Banana Gun คือ การเป็นบอทที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Solana โดยตรง 

ในขณะที่บอทคู่แข่งอย่าง Maestro และ Banana Gun ที่ทำงานอยู่บน Ethereum ต้องเผชิญกับข้อจำกัดในเลเยอร์พื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นความล่าช้าในการสร้างบล็อก และ ความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมที่ต่ำ, รวมถึงปัญหา ค่า Gas ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

แหล่งที่มา: https://dune.com/whale_hunter/dex-trading-bot-wars

แม้ว่า คู่แข่งบางรายจะเริ่มขยายไปสู่เครือข่าย Solana แล้ว แต่โครงสร้างพื้นฐานและฐานผู้ใช้งานหลักของพวกเขา ยังคงเน้นที่ Ethereum เป็นหลัก ซึ่งนั่นจำกัดความสามารถในการใช้ประโยชน์ จากความเร็วของ Solana ได้อย่างเต็มที่

บอทที่พัฒนาขึ้นบนเครือข่าย Solana โดยตรงอย่าง Trojan และ Bonk Bot ได้เปรียบอย่างมากจาก เวลายืนยันบล็อกที่ต่ำกว่า 1 วินาที และความสามารถในการ ประมวลผลธุรกรรมหลายพันรายการต่อวินาที

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบอทนี้ ยังไม่มีโทเคนเนทีฟของตัวเอง ซึ่งเปิดโอกาสให้ Snorter สามารถเป็นรายแรกที่เปิดตัว โทเคน SNORT บนตลาดแลกเปลี่ยนหลักได้ ภายใน 21 วัน

ทั้งนี้ Snorter ไม่เพียงแต่มีความเร็วและประสิทธิภาพด้านต้นทุน เทียบเท่ากับ Trojan และ Bonk Bot แล้ว แต่ Snorter ยังเพิ่มคุณสมบัติอีกชั้น ด้วยเทคโนโลยีการตรวจจับล่วงหน้า

โดยบอทตัวนี้มีความสามารถในการสแกน Mempool (พื้นที่รอการยืนยันธุรกรรม) ของเครือข่าย Solana และ Ethereum ได้แบบเรียลไทม์

มันสามารถระบุการเปิดตัวสภาพคล่องใหม่ และโทเคนใหม่ได้ทันทีที่ปรากฏ จากนั้นจะทำการกรองผ่านการตรวจสอบสัญญา และมีระบบป้องกันการหลอกลวง ก่อนที่จะส่งการแจ้งเตือนไปยังนักเทรด

ความสามารถนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดรายย่อย ทำให้เหล่านักเทรดสามารถเข้าตลาดได้ตั้งแต่แรกๆ แทนที่จะต้องกลายเป็นผู้ที่ซื้อเหรียญต่อ และขายออกเป็นคนสุดท้ายเมื่อราคาย่อตัวลง

สำหรับนักลงทุนช่วงแรก มันคือ โอกาสในการสนับสนุนโทเค็นบน Solana ที่เชื่อมโยงกับบอทเทรดดิ้งบน Telegram ที่อาจกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมบนเครือข่ายนี้

เหตุใด SNORT ถึงอาจประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ?

SNORT ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ เพราะเป็นโทเคนตัวแรกที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานจริง (Utility), การกำกับดูแล (Governance), และการ Staking สำหรับบอทเทรดดิ้งบนเครือข่าย Solana

การเป็นผู้บุกเบิกตลาดในวงการคริปโต มักสร้างอิทธิพลอย่างมาก เช่น Bitcoin คือสกุลเงินคริปโตแรก Ethereum คือแพลตฟอร์มสมาร์ทคอนแทรกต์ตัวแรก และ Dogecoin คือเหรียญมีมแรก

นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักลงทุนในช่วงแรก เทเงินหลายล้านดอลลาร์เข้าสู่ Snorter ความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ เป็นเพราะผู้ที่ติดตามวงการบอทบน Telegram ต่างรู้ดีว่า บอทคู่แข่งอย่าง Banana Gun เคยระดมทุนแบบส่วนตัวได้เพียง $1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น ซึ่ง Snorter สามารถทำลายสถิตินั้นไปได้เรียบร้อยแล้ว

ในช่วงเวลาที่การเทรดกำลังเปลี่ยนไปสู่ระบบอัตโนมัติและ AI นักเทรดรายย่อยที่ยังคงใช้วิธีการทำงานด้วยตนเองแทบจะ ไม่สามารถแข่งขันกับบอทและอัลกอริทึม ได้เลย

จุดนี้อาจเป็นตัวเร่งสำคัญ ที่ทำให้บอทเทรดบน Telegram ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย และหาก Snorter สามารถก้าวขึ้นมาเป็นมาตรฐานหลักได้สำเร็จ ก็จะทำให้ทั้งการใช้งานและความต้องการโทเคน SNORT เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 

นอกจากนี้ การถือโทเคน SNORT ยังมอบสิทธิประโยชน์ในหลายด้าน ทั้งการสเตก (Staking), การมีส่วนร่วมในการกำกับดูแล (Governance), การสนับสนุนเทคโนโลยีตรวจจับล่วงหน้า, และการได้รั ค่าธรรมเนียมที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรมเพียง 0.85% ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน

กล่าวคือ Snorter จะมอบทั้งความเร็วและข้อได้เปรียบด้านต้นทุน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานทำกำไรได้มากขึ้น โดย SNORT ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำคัญในทุกขั้นตอนของการเทรด

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ SNORT  มีศักยภาพสูงอย่างมาก ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ถูกออกแบบมาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ อย่างนักเทรดรายย่อยที่ต้องการ ความได้เปรียบในการเทรด และ ความสะดวกครบวงจร ในแพลตฟอร์มเดียว

Snorter กำลังจะมีฟีเจอร์ “Sniping” เร็ว ๆ นี้

โปรเจกต์ระดมทุนช่วงเริ่มต้นของ Snorter กำลังจะสิ้นสุดเร็ว ๆ นี้ และข้อมูลอัปเดตล่าสุดจากทีมงานยืนยันว่า ฟีเจอร์สำคัญอย่าง Sniping และการคัดลอกการเทรดกำลังได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์ก่อนการเปิดตัว

สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือ การเข้าร่วมโทเค็นในราคาที่อาจเป็นจุดต่ำสุดก่อนที่ราคาจะขึ้นบนตลาดแลกเปลี่ยน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ Snorter Bot Token  หลังจากนั้นให้เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน Best Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินแบบ non-custodial ที่ได้รับการรับรองจาก WalletConnect โดยถือเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินคริปโตและ Bitcoin ที่ดีที่สุดในขณะนี้ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นที่สุด

โทเคนใหม่ที่เข้าร่วม สามารถทำการ stake ได้ทันที ผ่านโปรโตคอลของโปรเจกต์ โดยมีอัตราผลตอบแทนต่อปี (APY) แบบไดนามิกสูงสุดถึง 114%

ซึ่งยอดโทเคนจากโปรเจกต์ระดมทุนในช่วงเริ่มต้น จะแสดงผลโดยตรงในแอป โดยการเคลมสามารถทำได้ทันทีที่โทเค็นเปิดใช้งาน และผู้ถือโทเคนจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงโปรเจกต์ใหม่ ๆ ผ่านฟีเจอร์ Upcoming Tokens ของกระเป๋าได้ง่ายๆ

Best Wallet มีให้ดาวน์โหลดทั้งบน Google Play และ Apple App Store และ

สามารถติดตามข่าวสารของชุมชน Snorter ได้ทาง X และ Instagram

หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษา Snorter Bot Token เพิ่มเติม ได้แล้ว

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                  
เช็คลิสต์รายละเอียดสถานะ
1. เว็บไซต์ & Whitepaper โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม✔️
2. ความโปร่งใสของทีมงาน ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด
3. Tokenomics เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป✔️
4.Smart Contract Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน  ⚠️ (ไม่ชัดเจน)
5. มีกำหนดการชัดเจนโปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน
6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้⚠️ (ไม่ชัดเจน)
7. คอมมูนิตี้ โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว ✔️
8. สภาพคล่อง โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น ⚠️ (ไม่ชัดเจน)
9. สัญญาณอันตราย โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น ⚠️ (ไม่ชัดเจน)
อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน

บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์