 เข้า Exchange ตลาดจับตา ‘เทขาย’ หรือ ‘วางกลยุทธ์’?){kind=link}
ท่ามกลางบรรยากาศที่ตลาดคริปโตกำลังกลับมาคึกคักในช่วงต้นเดือนตุลาคม ได้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่น่าจับตา เมื่อข้อมูลบนบล็อกเชน (On-chain) ตรวจพบธุรกรรมปริศนาที่มีการโอน Ethereum จำนวนมหาศาลถึง 198,289 ETH คิดเป็นมูลค่ากว่า 852 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 3.1 หมื่นล้านบาท) จาก Wallet นิรนามเข้าไปยัง Deribit ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขาย Futures และ Options ชั้นนำของโลก
การโอนเงินก้อนใหญ่มหึมาในธุรกรรมเดียวครั้งนี้ ได้จุดประกายการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนในชุมชนคริปโตถึงเจตนาที่แท้จริงของ “วาฬ” (Whale) หรือผู้ถือครองเหรียญรายใหญ่นี้
สัญญาณหมี? หรือแค่การป้องกันความเสี่ยง?
การโอนเหรียญจำนวนมากเข้าสู่ Exchange มักถูกตีความได้หลายแง่มุม โดยมีทฤษฎีที่เป็นไปได้ดังนี้
- เตรียมเทขาย (Bearish Signal)
- นี่คือการคาดการณ์ที่ตรงไปตรงมาที่สุด การนำเหรียญเข้า Exchange คือขั้นตอนแรกที่จำเป็นหากวาฬต้องการจะเทขายสินทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อราคา ETH ได้
- ป้องกันความเสี่ยง (Hedging Strategy)
- เนื่องจาก Deribit เป็น Exchange ที่เน้นด้านอนุพันธ์ (Derivatives) จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าวาฬรายนี้อาจไม่ได้ต้องการจะ “ขาย” ETH ทันที แต่อาจนำ ETH ไปเป็นหลักประกันเพื่อเปิดสถานะในตลาด Futures หรือ Options เช่น การเปิด Short เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากตลาดเกิดการปรับตัวลงอย่างรุนแรง
- การปรับพอร์ตของสถาบัน (Institutional Repositioning)
- อาจเป็นการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ของกองทุนขนาดใหญ่เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนเท่านั้น
ตลาดไม่หวั่นไหว ท่ามกลางกระแส ‘Uptober’
แม้การโอนเหรียญจำนวนมากเข้า Exchange อาจดูเป็นสัญญาณลบ แต่ดูเหมือนว่าตลาดโดยรวมจะยัง “ไม่แสดงความกังวล” มากนัก
เหตุผลสำคัญคือการเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของเดือนตุลาคม หรือที่ชุมชนคริปโตมักเรียกว่า “Uptober” ซึ่งเป็นเดือนที่ตลาดมักจะปรับตัวเป็นขาขึ้นในอดีต ประกอบกับราคา ETH ที่ได้พุ่งขึ้นมากว่า 5% แล้วในช่วงต้นเดือน
นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวก โดยให้ความสำคัญกับความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง
การเคลื่อนไหวของวาฬปริศนารายนี้จึงเป็นเครื่องเตือนใจถึงกลยุทธ์ที่ซับซ้อนของผู้เล่นรายใหญ่ และในขณะที่บรรยากาศของ “Uptober” ยังคงแข็งแกร่ง ชุมชนคริปโตต่างก็กำลังจับตาดู Wallet นี้อย่างใกล้ชิดว่าก้าวต่อไปจะเป็นการ “ทุบ” หรือแค่การ “วางหมาก” เท่านั้น
ที่มา: u.today