ปัจจุบัน (17 ตุลาคม) ตลาดคริปโตได้ประสบกับการล้างพอร์ตรุนแรงอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งล่าสุดทาง JPMorgan ธนาคารยักษ์ใหญ่ได้ออกมากล่าวว่า การที่ราคาร่วงอย่างรุนแรงในครั้งนี้เกิดจากนักเทรดคริปโตด้วยเชือดกันเอง ไม่ใช่เป็นการดัมพ์ราคาจากทางสถาบัน หรือ ETF
Nikolaos Panigirtzoglou นักวิเคราะห์ของธนาคาร ระบุในเอกสารว่า มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าได้เกิดเหตุการณ์ “ชำระล้างเลเวอเรจ” ในตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งเป็นเครื่องมือยอดนิยมของเหล่านักเทรดคริปโต กลับกันนักเทรดหัวโบราณที่เทรดผลิตภัณฑ์การเงินแบบปลอดภัย เช่น Spot ETF กลับไม่ได้ตื่นตระหนกเท่าเพราะเป็นนักลงทุนสายระยะยาว
ข้อมูลของ JPMorgan ยังระบุอีกว่า มีเงินไหลออกจาก Bitcoin ETFs ประมาณ $220 ล้านในช่วงระหว่าง 10-14 ตุลาคม หรือ 0.14% ของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ ขณะที่ Ethereum ETFs มีเงินไหลออก $370 ล้าน หรือคิดเป็น 1.23% ของ AUM
JPMorgan อธิบายต่อว่า นักลงทุนสถาบันไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาผันผวนหนัก ดังนั้น “นักเทรดคริปโต” ด้วยกันเองนี่แหละที่เป็นคนชักใยปั่นตลาดที่อยู่นอกเหนือสายตาการกำกับดูแล และที่ราคาร่วงแรงก็เพราะนักเทรดเหล่านี้ใช้เลเวอเรจที่สูงเกินตัว
นอกเหนือจากนี้ ข่าวสารเศรษฐกิจมหภาคยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลทำให้เกิดวิกฤตเนื่องจากนักลงทุนหวาดกลัวในสินทรัพย์เสี่ยงและยอมตัดใจขายขัดทุนก่อนที่จะเจ็บตัวไปมากกว่านี้และหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยแทน
ทั้งนี้ทางธนาคารยังคงเชื่อมั่นว่า Bitcoin ยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในระยะยาวแม้ว่าในปัจจุบันตลาดกำลังอยู่ในสภาวะเปราะบาง ซึ่งแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาขั้นต่อไปนั้นจะอยู่ที่ $100,000 ซึ่งต้องมาลุ้นกันต่อไปว่าตลาดจะเป็นอย่างไรต่อ
ที่มา : Cryptopolitan