<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

จีนขึ้นแท่นประเทศขุด Bitcoin รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก แม้รัฐบาลจะประกาศแบน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

จีนเคยเป็นศูนย์กลางอันดับหนึ่งของการขุด Bitcoin ของโลก ด้วยไฟฟ้าราคาถูกและสามารถเข้าถึงผู้ผลิตเครื่องขุด ( ASIC) ชั้นนำ ทำให้จีนเป็นผู้นำด้านการขุด Bitcoin ทั่วโลกมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อรัฐบาลจีนประกาศแบนการขุดคริปโต ในปี 2021 และต่อมาในเดือนกันยายน 2021 ธนาคารกลางจีน (PBOC) ก็ออกคำสั่งห้ามทำธุรกรรมคริปโตทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางการเงินและเป็นความเสี่ยงต่อระบบการเงินของประเทศ

แต่ในปัจจุบัน แม้รัฐบาลจีนจะพยายามกวาดล้างนักขุดคริปโตอย่างหนัก แต่ก็ยังมีหลายรายที่ยังแอบขุดต่อในประเทศจีน

ตามข้อมูลของ Luxor’s Global Hashrate Map ในรายงานไตรมาส 4 ปี 2025 ระบุว่าปัจจุบันจีนมีส่วนแบ่งแฮชเรตทั่วโลกอยู่ที่ 14.05% หรือประมาณ 145 EH/s ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 13.8% ในไตรมาสก่อน

Kaan Farahani นักวิเคราะห์จาก Luxor เปิดเผยว่า แผนที่ Global Hashrate Map ที่เป็นการประเมินการกระจายตัวของพลังการขุด Bitcoin ทั่วโลก โดยอ้างอิงจากข้อมูลของพูลขุด, การซื้อขาย ASIC และแนวโน้มการใช้เฟิร์มแวร์

ข้อมูลดังกล่าว เผยว่า จีนเป็นประเทศผู้มีส่วนร่วมรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ในการขุด Bitcoin รองจากสหรัฐฯ และรัสเซีย

แม้ Luxor จะไม่ได้ระบุว่า แฮชเรตเหล่านี้อยู่ที่ไหนในจีน แต่แหล่งข่าวหลายแห่งจากซัพพลายเชนของ ASIC ชี้ว่า จุดศูนย์กลางหลักน่าจะอยู่ที่ มณฑลซินเจียง (Xinjiang) ซึ่งเคยเป็นแหล่งขุดใหญ่ ก่อนที่รัฐบาลจะสั่งแบนในปี 2021 เพราะมีพลังงานราคาถูก และอยู่ห่างไกลจากเมืองใหญ่

Kent Halliburton CEO ของแพลตฟอร์มขุดบิทคอยน์ Sazmining กล่าวว่า เขาไม่แปลกใจเลยที่ยังมีการขุดเกิดขึ้นในจีน

“นี่แหละคือเสน่ห์ของ Bitcoin mining  มันคือ แนวทางแบบ cypherpunk แท้ ๆ แค่คุณมีไฟฟ้าและเครื่องขุด คุณก็สามารถผลิต Bitcoin เองได้ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปิดการขุดทั้งหมด โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล”

Halliburton ยังกล่าวเสริมว่า หลายประเทศที่ห้ามขุดคริปโต ก็ยังมีแฮชเรตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่น อิหร่าน ที่ตอนนี้มีพลังการขุดประมาณ 8 EH/s คิดเป็น 0.75% ของตลาดโลก ทั้งที่การขุดในประเทศนั้นก็ถูกแบนเช่นกัน

Halliburton  อธิบายว่า “โดยทั่วไปแล้ว ประเทศที่ควบคุมเงินทุนไหลออกอย่างเข้มงวด มักจะพยายามแบนการขุด Bitcoin แต่ตราบใดที่ยังมีไฟฟ้าและฮาร์ดแวร์ คุณก็ยังขุดได้อยู่ดี”

ไม่ใช่แค่เรื่องการขุดเท่านั้น แต่ในส่วนของอุปกรณ์ขุด (ASIC) จีนก็ถือเป็นผู้ผลิตหลักเกือบทั้งหมด

ข้อมูลจากบริษัท Auradine เปิดเผยว่า เครื่องขุด Bitcoin กว่า 95% ถูกผลิตโดยบริษัทจีน อย่าง Bitmain, MicroBT และ Canaan

ซึ่ง Sanjay Gupta CSO ของ Auradine เตือนว่า การพึ่งพาอุปกรณ์จากจีนมากเกินไปอาจสร้างความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ

Sanjay Gupta  กล่าวว่า “มีเครื่องขุดที่ผลิตในจีนกว่าล้านเครื่อง ที่เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของสหรัฐฯ ซึ่งถ้ามีโค้ดฝังไว้ในเครื่อง เพื่อใช้โจมตีไซเบอร์พร้อมกัน อาจสร้างผลกระทบมหาศาลต่อระบบไฟฟ้าของประเทศได้”

Sanjay Gupta  ยังเตือนอีกว่า การที่จีนถือครองซัพพลายของเครื่องขุดมากขนาดนี้ อาจเปิดช่องให้เกิดการยึดครอง 51% ในระดับโปรโตคอลได้ หากเกิดความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อ ทรัมป์เพิ่งเพิ่มภาษีสินค้าจีนสูงถึง 155% ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาของ BTC และตลาดการเงินทั่วโลก

ที่มา : finance.yahoo