Snorter Bot Token (SNORT) ปิดรอบระดมทุนในช่วงโปรเจกต์เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ทีมพัฒนาได้เปิดช่วงต่อขยายพิเศษอีกหนึ่งสัปดาห์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนยังสามารถเข้าร่วม SNORT ได้ใน “ราคาจดทะเบียนเท่ากับช่วงโปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้น” ถือเป็นอีกหนึงเหรียญใหม่ที่น่าจับตามองอย่างมากสำหรับนักลงทุน
ช่วงเวลาพิเศษนี้ ถือเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามาจัดพอร์ตการลงทุนก่อนที่เหรียญจะเริ่มเทรดบนกระดานหลัก และด้วยความต้องการที่สูงขึ้น อาจทำให้ราคา SNORT ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยกำหนดการวันเคลมโทเค็นคือ วันที่ 27 ตุลาคม เวลา 14.00 น. ตามเวลาสากล หมายความว่า นักลงทุนยังเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันในการเข้าร่วม ก่อนการลิสต์อย่างเป็นทางการ
หลังจากเปิดตัว (TGE) เสร็จสิ้น แผนงานของ Snorter Bot จะเดินหน้าขยายสู่ระบบมัลติเชน นอกเหนือจากเครือข่าย Solana เพื่อให้กลไกการเทรดอัจฉริยะ สามารถสแกนและจับจังหวะเหรียญมีมที่กำลังเติบโตในบล็อกเชนอื่น ๆ ได้
ปัจจุบันราคาซื้อขายอยู่ที่ $0.1083 ต่อโทเค็น นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายในการถือครอง SNORT ก่อนที่โทเค็นจะเข้าสู่ตลาดเทรดอย่างเป็นทางการ
ซึ่งสำหรับใครที่ติดตามโปรเจกต์ระดมทุนในช่วงเริ่มต้นของ Snorter Bot Token มาตลอด คงรู้ดีว่าโปรเจกต์นี้ ตั้งเป้าจะขึ้นเป็นผู้นำในสนามแข่งขันของเทรดดิ้งบอทบน Telegram โดยมีคู่แข่งอย่าง Banana Gun, Maestro และ Trojan
สิ่งที่ทำให้ Snorter แตกต่างคือ พื้นฐานทางเทคนิคและความเร็วในระดับสูง โดยโปรเจกต์ถูกสร้างบนเครือข่าย Solana ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องค่าธรรมเนียมต่ำ และความเร็วในการประมวลผลธุรกรรม
นอกจากนี้ Snorter ยังไม่ได้ใช้ public RPC endpoints แบบทั่วไป ที่มักเกิดปัญหาเรื่องความหนาแน่นของธุรกรรมเมื่อมีการเทรดในปริมาณมาก แต่เลือกใช้ custom RPC connections ซึ่งเป็นโหนดเฉพาะบน Solana ที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้ความสำคัญกับการประมวลผลธุรกรรมของ Snorter โดยเฉพาะ
สถาปัตยกรรมในลักษณะนี้ ไม่เพียงทำให้ Snorter สามารถดำเนินการซื้อขายได้รวดเร็วเป็นพิเศษเท่านั้น แต่ยังช่วยให้บอทมีความได้เปรียบในการตรวจจับ “เหรียญมีม” ที่ราคากำลังจะพุ่งขึ้นอีกด้วย
ระบบของ Snorter จะสแกนธุรกรรมแบบเรียลไทม์บน Solana อย่างต่อเนื่อง ทั้งคิวธุรกรรม ฟีดจากตัวตรวจสอบบล็อก (validators) และพูลสภาพคล่อง เพื่อค้นหาการมินต์เหรียญใหม่ การเติมสภาพคล่อง หรือความเคลื่อนไหวบนเชน ที่บ่งชี้ถึงการเปิดตัวเหรียญมีมระยะเริ่มต้น

แหล่งที่มา: https://snortertoken.com/
เมื่อระบบตรวจจับพบโทเค็นใหม่ นักเทรดสามารถดำเนินการซื้อขายได้ทันทีผ่านอินเทอร์เฟซของ Snorter บน Telegram ซึ่งอนุญาตให้เทรดได้โดยตรงภายในแอปอย่างสะดวกและรวดเร็ว
แม้ระบบจะใช้งานง่าย แต่ความแม่นยำของมัน มาจากโปรโตคอลการกรองแบบหลายชั้น (multi-layer filtering protocol) ที่จะตรวจสอบโทเค็นแต่ละตัวโดยอัตโนมัติ ทั้งด้านความปลอดภัยของสัญญา (contract safety), ความลึกของสภาพคล่อง (liquidity depth) และสัญญาณเตือนความเสี่ยง (red flags) ต่าง ๆ เหรียญที่เข้าข่าย honeypot, rug pull หรือพูลสภาพคล่องตื้นจะถูกตัดออกภายในไม่กี่วินาที เหลือไว้เฉพาะโทเค็นที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยบนเชนของ Snorter เท่านั้น
ด้วยการผสานระหว่าง “ความเร็ว ความแม่นยำ และความปลอดภัย” ทำให้โปรเจกต์ระดมทุนในช่วงเริ่มต้นของ Snorter ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสามารถระดมทุนได้มากกว่า Banana Gun ถึงกว่า 4 เท่า
นี่คือเหตุผลว่า ทำไมการได้สิทธิ์เข้าถึงเหรียญ SNORT ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จึงอาจกลายเป็นข้อได้เปรียบที่ทรงคุณค่าที่สุดในตลาดเทรดดิ้งบอท ณ ขณะนี้
หลังเปิดตัวเหรียญ (TGE) : Snorter เตรียมเปิดระบบเทรดอัตโนมัติบน Telegram ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
การที่เทรดดิ้งบอทบน Telegram ถูกจำกัดอยู่เพียงเครือข่ายเดียว อาจทำให้ความเร็วและความแม่นยำไร้ประโยชน์ เนื่องจากปัจจุบันเหรียญมีมบน Binance กำลังเป็นที่จับตาอย่างมาก ดังเช่นกรณีของนักเทรดรายหนึ่งที่ทำกำไรมหาศาลถึง $2,260$ เท่า จากการลงทุน $3,500 ในเหรียญ Binance Life จนเงินกลายเป็น $7.9 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงสามวัน ทำให้ความสามารถแบบ ‘มัลติเชน’ (Multi-chain หรือ Cross-chain) ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่นักลงทุนต้องการอย่างแท้จริง
ซึ่งทิศทางถัดไปของ Snorter Bot หลังการเปิดตัวเหรียญ (TGE) โปรเจกต์จะเริ่มขยายสู่ระบบมัลติเชน โดยเริ่มจาก Ethereum ก่อน จากนั้นจะขยายไปยัง Binance, Base และ Polygon
ความก้าวหน้าครั้งนี้ ช่วยให้ Snorter เข้าถึงระบบนิเวศเหรียญมีมที่คึกคักที่สุด และนำหน้าคู่แข่งอย่าง Trojan ที่ยังจำกัดอยู่เพียงเครือข่าย Solana
สำหรับด้านฟีเจอร์ Snorter ยังเพิ่มเครื่องมือใหม่ ๆ ภายใน Telegram โดยตรง หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญคือ Portfolio Dashboard เพียงพิมพ์คำสั่ง /portfolio ผู้ใช้ก็จะได้รับสรุปผลการลงทุนแบบเรียลไทม์ ที่แสดงทั้งกำไร/ขาดทุน, ต้นทุนเฉลี่ย และกำไรที่ทำได้จริง ซึ่งทั้งหมดทำได้ โดยไม่ต้องออกจากแอป

แหล่งที่มา: https://snortertoken.com/
แผนพัฒนาขั้นต่อไปของ Snorter คือ โปรเจกต์จะเปิดตัว อัลกอริทึมการเทรดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยให้สามารถทำการซื้อขายอัตโนมัติได้โดยตรง ผ่าน Telegram ฟีเจอร์นี้จะทำงานควบคู่กับระบบ คัดลอกการเทรด (copy-trading) ที่มีอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างความร่วมมือกับโครงการ DeFi เพิ่มเติม เพื่อขยายประโยชน์ใช้สอยของโทเค็น SNORT
รวมถึง สิทธิ์ในการออกเสียงในระบบกำกับดูแล (governance voting rights) ทำให้ผู้ถือโทเค็น สามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำคัญของโปรโตคอลและการอัปเกรดฟีเจอร์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เพียงครึ่งหนึ่งของส่วนแบ่งตลาด ก็สามารถดันมูลค่าของ SNORT ให้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
โทเค็น SNORT คือ ศูนย์กลางของระบบเทรดดิ้งที่ทรงพลัง ซึ่งมีศักยภาพในการพลิกโฉมวิธีการทำงานของนักเทรดคริปโต
บอทชั้นนำอย่าง Banana Gun, Maestro และ Trojan มียอดการซื้อขาย รวมมูลค่า 392 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หาก Snorter สามารถบรรลุเป้าหมายในการเป็นตัวเลือกที่เร็วและฉลาดกว่า
การคว้าเพียงเศษเสี้ยวของปริมาณการเทรดนี้ ก็สามารถทำให้ มูลค่าหุ้น Fully Diluted ของ SNORT ที่ปัจจุบัน อยู่ที่ 54 ล้านดอลลาร์ พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าได้

แหล่งที่มา: https://dune.com/whale_hunter/dex-trading-bot-wars
ด้วยความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อโปรเจกต์และแผนงานที่ทะเยอทะยาน นี่อาจเป็น โอกาสสุดท้าย ที่จะได้ถือครอง SNORT ในราคาที่อาจเป็นราคาต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา
โอกาสสุดท้ายในการก้าวนำหน้าก่อนใคร
หากผู้ที่สนใจต้องการเข้าร่วม SNORT ในราคาจดทะเบียน ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ Snorter Bot Token แล้วทำการเชื่อมต่อ Best Wallet กระเป๋าเงินคริปโตชั้นนำแห่งปี 2025
ผู้ถือโทเค็นจะได้สิทธิ์เข้าถึงโปรเจกต์ใหม่ก่อนใครผ่านฟีเจอร์ “Upcoming Tokens” ของ Best Wallet เพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่นที่สุด
โทเค็น SNORT ยังทำหน้าที่เป็นโทเค็นสำหรับ staking ภายในโปรโตคอลของโปรเจ็กต์ ซึ่งปัจจุบันให้ผลตอบแทน APY แบบไดนามิก 103%
Best Wallet สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน Google Play และ Apple App Store
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมชุมชน Snorter ได้ทาง X และ Instagram
หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษา Snorter Bot เพิ่มเติม ได้แล้ว
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | ✔️ |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | ❌ |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | ✔️ |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | ❌ |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | ✔️ |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 9. สัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์

