ราคา Bitcoin (BTC) ยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ เจอโรม พาวเวล ประธานธาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิง “Hawkish” (แข็งกร้าว) และดับความคาดหวังของตลาดที่จะได้เห็นการลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้
สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดได้ร่วงลงมากถึง 3.1% จนหลุดระดับ 106,000 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย การเทขายครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Fed ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ (มาอยู่ที่กรอบ 3.75%-4.00%) แต่พาวเวลกลับออกมาเตือนนักลงทุนว่าอย่าเพิ่ง “ด่วนสรุป” ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีกในอนาคต
ตลาดช็อก-โอกาสลดดอกเบี้ยฮวบจาก 90%
คำพูดของพาวเวลที่ว่าการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม “ยังห่างไกลจากข้อสรุปที่แน่นอน” (far from a foregone conclusion) ได้สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วตลาด
“คำพูดของพาวเวลสร้างบรรยากาศแบบ ‘ปิดรับความเสี่ยง’ (Risk-off) ขึ้นมา” ชาร์ลี เชอร์รี (Charlie Sherry) หัวหน้าฝ่ายการเงินของ BTC Markets กล่าว “เมื่อรวมกับการประชุมระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิง ที่สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดในวันนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นความผันผวน หุ้นเทคโนโลยีบางตัวกำลังฟื้นตัว แต่คริปโตกลับไม่ตามไปด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอและความลังเลในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลตอนนี้”
เงินสถาบันไหลออก-คริปโตไม่ใช่ ‘หลุมหลบภัย’?
การร่วงลงครั้งนี้ตอกย้ำถึงบรรยากาศ “ปิดรับความเสี่ยง” (Risk-off) ในตลาด ซึ่งถูกกระตุ้นโดยความกังวลเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยของ Fed
วูการ์ อูซี ซาเด (Vugar Usi Zade) ซีโอโอของ Bitget กล่าวว่า ท่าทีของพาวเวล “กระตุ้นให้นักเทรดต้องปรับลดความคาดหวังลง” สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นในกระแสเงินทุน ETF ที่ “แสดงสัญญาณความระมัดระวังของนักลงทุน” โดยกองทุน Bitcoin และ Ethereum ETF ของสหรัฐฯ (รวมถึง FBTC และ ARKB) มีเงินทุนไหลออกสุทธิรวมกันถึง 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 29 ตุลาคม
การที่ราคาคริปโตและหุ้นร่วงลงพร้อมกันในวันพฤหัสบดี ยังเป็นการ “สาดน้ำเย็น” ใส่ความหวังของคนที่เชื่อว่า Bitcoin จะสามารถทำหน้าที่เป็น “สินทรัพย์หลบภัย” หรือ “เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง” จากความผันผวนในตลาดหุ้นได้
บริษัท ‘กงสีคริปโต’ (DATCOs) เริ่มเทขาย
ตลาดคริปโตเพิ่งจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์ล้างพอร์ตครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งมีสถานะถูกล้างไปกว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ และล่าสุด ดูเหมือนจะมีแรงกดดันระลอกใหม่เข้ามาซ้ำเติม
บริษัทที่ทำกลยุทธ์คลังสินทรัพย์ดิจิทัล (DATCOs) หรือที่เรียกกันว่า “กงสีคริปโต” บางแห่ง ได้เริ่ม “เทขาย” คริปโตในคลังของตนเอง ทั้งๆ ที่เพิ่งจะซื้อเข้ามาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
- ETHZilla (ETHZ) อดีตบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่เพิ่งเปลี่ยนมาสะสม Ether เมื่อเดือนสิงหาคม ได้เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า ได้ “ขาย Ether มูลค่าประมาณ 40 ล้านดอลลาร์” ออกจากคลัง เพื่อนำเงินไปซื้อหุ้นของบริษัทคืน
- หุ้น DATCOs ร่วงหนัก หุ้นของบริษัทกงสีคริปโตชื่อดังอื่นๆ เช่น BitMine (BMNR), Eightco (ORBS) และ SharpLink (SBET) ต่างก็ร่วงลงอย่างหนักจากจุดสูงสุด อย่างน้อย 70%
ซาเด (Zade) จาก Bitget กล่าวว่า แม้ความอ่อนแอในหุ้น DATCOs จะสร้างความผันผวนในตลาด แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานว่าการเทขายของบริษัทเหล่านี้เป็น “ตัวจุดชนวน” ให้ตลาดร่วงลง “ยังมีพลังที่ใหญ่กว่านั้นกำลังทำงานอยู่” เขากล่าว
เสียงแตกใน Fed-จับตาแนวรับ $100K
ออกัสติน แฟน (Augustine Fan) หุ้นส่วนของ SignalPlus ชี้ว่า พาวเวลได้ “ระบุว่ามีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากในหมู่คณะกรรมการ” “สถานการณ์ยิ่งยากลำบากมากขึ้นจากภาวะ Government Shutdown ที่ทำให้ขาดข้อมูลเศรษฐกิจ ซึ่งประธาน Fed ก็บอกเป็นนัยว่าพวกเขาอาจจะต้องระมัดระวังด้วยการรอดูสถานการณ์ในที่ประชุมเดือนธันวาคม”
นิค รัค (Nick Ruck) ผู้อำนวยการของ LVRG Research กล่าวว่าท่าทีของพาวเวล “ทำให้นักเทรดไม่ทันตั้งตัวและลบกำไรที่ทำมาล่าสุดจนหมด” เขากล่าวเสริมว่า นักเทรด Bitcoin ควรมองหาแนวรับที่ 107,000 ดอลลาร์ และ 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญในขาลงต่อไป
ที่มา: bloomberg