PlanB นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังผู้สร้างโมเดล Stock-to-Flow (S2F) ได้ออกมาตอบโต้ความตื่นตระหนกในตลาด Bitcoin (BTC) ที่กำลังเผชิญกับแรงเทขายจนร่วงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์ ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงลบทางเทคนิคที่สำคัญ โดย PlanB ยืนยันว่าความกลัวนี้เป็นเพียง “การตื่นตระหนกเกินเหตุ” ที่เกิดขึ้นซ้ำรอยกับวัฏจักรในอดีต
PlanB ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีราคา BTC ร่วงลงสู่ระดับใกล้ $94,000 และนักลงทุนต่าง “ตกใจ” กับการหลุดแนวรับ 50-Week MA นั้น มีความคล้ายคลึงอย่างยิ่งกับเดือนตุลาคม 2019 ในเวลานั้น ราคา Bitcoin อยู่ที่เพียง $8,000 และผู้คนต่างกังวลเรื่องการยอมจำนนของนักขุดก่อนการ Halving ปี 2020 ซึ่งในเวลานั้น PlanB ได้คาดการณ์ราคาเป้าหมายไว้ที่ $55,000 ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าถูกต้องในช่วงปี 2021 PlanB ยืนยันว่า “ตลาดกระทิงยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นเลย” ทั้งในปี 2019 และในวันนี้ การร่วงลงครั้งนี้จึงไม่ใช่การสิ้นสุดวัฏจักร แต่เป็นการปรับฐานในช่วงต้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ส่งผลต่อจิตวิทยามากกว่าที่จะบ่งชี้ถึงการเข้าสู่ตลาดหมีอย่างแท้จริง
นักวิเคราะห์อื่น ๆ สนับสนุนมุมมองนี้ โดยชี้ว่านี่คือ “แบบแผนตามตำรา” ที่ตลาดจะต้องมีความตื่นตระหนกที่แนวเส้นค่าเฉลี่ยและการ Halving ก่อนที่ BTC จะกลับมาพุ่งทะยานครั้งใหญ่ พวกเขาย้ำว่าความขาดแคลนตามหลักคณิตศาสตร์ของโมเดล S2F มักจะชนะเสียง “Noise” หรือความวุ่นวายของตลาดเสมอ โดยมองว่าการร่วงลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยนี้เป็นการ “ล้างไพ่” ทางจิตวิทยาเพื่อทดสอบความเชื่อมั่นของนักลงทุน
การวิเคราะห์ทางเทคนิคบางส่วนที่สอดคล้องกับมุมมองของ PlanB ระบุว่า แนวรับสำคัญของวัฏจักรที่ต้องจับตาคือระดับ $90,000 และหากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ และสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ $100,000 ขึ้นไปได้ เป้าหมายต่อไปอาจอยู่ที่ $150,000 ไปจนถึง $200,000 ภายในสิ้นปี อย่างไรก็ตาม ยังมีคำเตือนถึงความเสี่ยงที่ราคาอาจ “ร่วงลงลึก” ไปถึง $85,000 หากความกลัวยังคงปกคลุมตลาดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การปรับฐานของ Bitcoin ในปัจจุบันจึงถูกมองว่าเป็นการทดสอบความเชื่อมั่นของนักลงทุน ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นที่แท้จริง โดยย้ำว่าการสะสมอย่างสม่ำเสมอในทุกช่วงราคาคือกลยุทธ์ที่แท้จริงในการรับมือกับความผันผวนของตลาด.
ที่มา: @100trillionUSD