ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีและตลาดหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ กอดคอกันดีดตัวขึ้นแรงในช่วงต้นสัปดาห์ หลังได้รับแรงหนุนจากข่าวใหญ่ของ Amazon ที่ประกาศแผนการลงทุนมหาศาล ซึ่งช่วยปลุกความเชื่อมั่นนักลงทุน ให้กลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโตฯ รวมกลับมายืนเหนือระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ และดันราคา Bitcoin (BTC) ให้ทะลุแนวต้านสำคัญที่ 88,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางบรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

Amazon จุดพลุ Tech Rally – ดึงคริปโตฟื้นตาม
ปัจจัยหลักที่จุดชนวนการฟื้นตัวในรอบนี้มาจากการประกาศของ Amazon (AMZN) ว่าจะลงทุนมูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Supercomputing ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 2.3% และ S&P 500 ปรับตัวขึ้น 1.4%
อานิสงส์เชิงบวกจากภาคเทคโนโลยีได้ส่งผ่านโดยตรงมายังตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ Bitcoin ฟื้นตัวจากการเทขายหนักเมื่อสัปดาห์ก่อน กลับมายืนที่ระดับประมาณ 88,000 ดอลลาร์ (จากจุดต่ำสุดที่เกือบหลุด 80,000 ดอลลาร์) ขณะที่ Ethereum (ETH) ก็ขยับขึ้น 5% มาอยู่ที่ 2,940 ดอลลาร์

หุ้นเหมืองขุด “สาย AI” รับโชคสองชั้น
กลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างชัดเจนคือ บริษัทเหมืองขุด Bitcoin ที่ได้ปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจหันมาให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการลงทุนของ Amazon ทำให้หุ้นของบริษัทเหมืองพุ่งไปตาม ๆ กัน
- Cipher Mining (CIFR) ราคาหุ้นพุ่งทะยานถึง 18%
- CleanSpark (CLSK) และ IREN ปรับตัวขึ้น 13%
- Hut 8 (HUT) ปรับตัวขึ้น 9%
กูรูย้ำ “ปัจจัยมหภาค” คือตัวกำหนดทิศทาง
การฟื้นตัวที่สัมพันธ์กับตลาดหุ้นในครั้งนี้ สอดคล้องกับมุมมองของ Ruslan Lienkha หัวหน้าฝ่ายตลาดของ YouHodler ที่วิเคราะห์ว่า การเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ในระยะสั้นยังคงถูกครอบงำโดย “ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ” อย่างหนัก
“หากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ สามารถทรงตัวและปรับขึ้นได้ (เช่นจากข่าว Amazon ในครั้งนี้) ก็จะช่วยพยุง Bitcoin ไว้ไม่ให้เข้าสู่การปรับฐานที่รุนแรงกว่านี้ แต่หากตลาดหุ้นกลับทิศเป็นขาลงชัดเจน Bitcoin อาจต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาล” Lienkha กล่าว
สัญญาณขัดแย้ง ราคาฟื้นแต่ความกลัวยังสุดขีด
แม้ราคาจะปรับตัวขึ้นและมีกระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุน Spot Bitcoin ETF สุทธิกว่า 238.47 ล้านดอลลาร์ในวันศุกร์ (นำโดย Fidelity) แต่ดัชนีความกลัวและความโลภ (Crypto Fear & Greed Index) ยังคงจมอยู่ที่ระดับ 10 หรือ Extreme Fear ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดใหม่
ด้าน John Glover จาก Ledn มองว่าสภาวะเช่นนี้คือสัญญาณของ Panic Selling จากนักลงทุนฝั่งขาขึ้นที่อ่อนแอ และอาจเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับการเริ่มสะสม โดยคาดการณ์ว่าจุดต่ำสุดที่แท้จริงจะก่อตัวขึ้นในช่วง 5-7 เดือนข้างหน้า เพื่อเป็นฐานสำหรับการเติบโตรอบใหม่สู่เป้าหมาย 150,000 ดอลลาร์ในปี 2027/28

