หลายปีที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประมูล Bitcoin (BTC) และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ไปมากกว่า 4.08 พันล้านดอลลาร์ตามข้อมูลในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดย Negentropic ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ Glassnode
ที่น่าสนใจคือการถือครองของรัฐบาลสหรัฐฯ นั้นมากกว่าสองเท่าของยูเครนที่ถือครองมูลค่า 2.01 พันล้านดอลลาร์และเทสลา (NASDAQ: TSLA ) ที่ 1.86 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้การถือครอง Bitcoin ของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงตามหลัง Grayscale Bitcoin Trust ซึ่งนำไปสู่มูลค่า 2.793 หมื่นล้านดอลลาร์และ MicroStrategy ซึ่งมีมูลค่า 5.43 พันล้านดอลลาร์
มูลค่า crypto ที่รัฐบาลสหรัฐยึดไว้เกิน 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564
ปริมาณของสกุลเงินดิจิทัลที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดได้ในปี 2564 เพียง 1 พันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 8 เท่าจากปีก่อนหน้า โดย Jarod Koopman ผู้อำนวยการหน่วยงาน Internal Revenue Service’s Cyber Crime กล่าวในเดือนธันวาคมว่า
“ในปีงบประมาณ 2019 เรามีการยึดคริปโตมูลค่าประมาณ 700,000 ดอลลาร์ และในปี 2020 มันมีมูลค่าสูงถึง 137 ล้านดอลลาร์ และจนถึงตอนนี้ในปี 2564 (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่อยู่ที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์”
โดย US Marshals Service ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการประมูลทรัพย์สิน cryptocurrency ของรัฐบาลได้ยึดและประมูล Bitcoin มากกว่า 185,000 BTC ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 8.6 พันล้านดอลลาร์ในขณะนั้น
แฮ็กเกอร์ Bitfinex มูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ถูกจับ
เนื่องจากรัฐบาลได้รวบรวมคริปโทเคอร์เรนซี่จำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิเคราะห์เชื่อว่าตราบใดที่อาชญากรรมในโลกไซเบอร์ยังคงเติบโตในอัตราปัจจุบัน กระเป๋าเงินคริปโตของรัฐบาลสหรัฐฯ จะยังคงเติบโตต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Bitcoin มูลค่ากว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ถูกกู้คืนจากการแฮ็ก Bitfinex ในปี 2559
อย่างไรก็ตามกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ประกาศเมื่อวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ ว่า BTC ที่ถูกแฮ็กซึ่งขณะนี้มีมูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ ได้รับการกู้คืนอย่างเป็นทางการแล้วแม้ว่าจะเป็นการล้มละลายทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวง