ราคา Bitcoin ในวันที่ 6 เมษายนนั้นลดลงและแนวโน้มระยะสั้นอาจดูเหมือนเป็นขาลงแต่แนวโน้มระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้นเช่นเคยมีตัวชี้วัด on-chain ที่สำคัญสามอย่างที่แสดงให้เห็นว่าสถาณการณ์ในเชิงบวกของ BTC ที่ช่วงขาขึ้นนั้นกำลังจะมาถึง
ราคาเป็นขาขึ้นแบบขีดสุด
ตัวชี้วัดออนไลน์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและมีความสำคัญไม่น้อยเลยสำหรับราคา Bitcoin ก็คือโมเดลมูลค่าตลาดสู่มูลค่าที่แท้จริง (MVRV) ในเวลา 365 วัน ตัวชี้วัดนี้เป็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง สามารถใช้เพื่อประเมินการได้กำไรหรือขาดทุนโดยเฉลี่ยของนักลงทุนที่ซื้อ BTC ในปีที่ผ่านมา
ข้อได้เปรียบที่สำคัญของการใช้ตัวชี้วัดนี้คือจะมีสัญญาณที่เกิดขึ้นว่าจะมีการเทขายเมื่อใดและเมื่อนักลงทุนควรมองเป็นขาขึ้นตอนไหนจากการวิจัยของ Santiment ค่าที่ต่ำกว่า -10% นั้นบ่งบอกว่าผู้ถือระยะสั้นกำลังขายแบบขาดทุนและแน่นอนว่าผู้ถือระยะยาวมีแนวโน้มที่จะเก็บของกันเพิ่ม
ดังนั้น ค่าที่ต่ำกว่า -10% มักถูกเรียกว่า “พื้นที่โอกาส” เนื่องจากความเสี่ยงของการขายออกจะน้อยกว่าการเก็บเพิ่มอย่างไรก็ตามซึ่งหากเกิดสิ่งที่ตรงกันข้ามด้วยค่า MVRV ที่สูงนั้นจะบ่งบอกว่าผู้ถือครองจำนวนมากอยู่ในสถานะที่มีกำไรและมีแนวโน้มที่จะขายเพื่อทำกำไร
ปัจจุบันค่า MVRV แบบ 365 วันนั้นอยู่เหนือเส้นศูนย์นั่นหมายความว่านักลงทุนไม่ได้อยู่ในสถานะได้กำไร อย่างไรก็ตาม ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ระดับสูงสุดที่ MVRV ของ BTC นั้นขึ้นไปแตะได้นั้นสูงถึง 24%
ทำให้เรานั้นสามารถสรุปได้ว่าราคา Bitcoin ยังคงสามารถขึ้นได้อีกก่อนที่จะเกิดการเทขาย
ตัวชี้วัดที่สำคัญตัวถัดไปที่นักลงทุนระยะยาวควรให้ความสนใจไม่แพ้กันนั่นก็คือการกระจายของอุปทานในการถือครองของเจ้ามือ
นักลงทุนที่ถือครอง Bitcoin ตั้งแต่ 1,000 ถึง 10,000 BTC ได้ทำการเก็บของกันเพิ่มตั้งแต่มิถุนายน 2021 ซึ่งก็สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับนักลงทุนที่ถือครอง Bitcoin ตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 BTC
ซึ่งจำนวนเจ้ามือที่ถือครอง BTC ตั้งแต่ 1,000 ถึง 10,000 BTC ได้เพิ่มขึ้นจาก 2,034 เป็น 2,166 คิดเป็น 6.5% ที่เพิ่มขึ้นส่วนจำนวนของเจ้ามือที่ถือครอง BTC ตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 BTC ด้วยจำนวนของผู้ถือครองที่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ก็เป็นตัวที่บ่งชี้ให้เห็นว่าบรรดาสถาบันที่เข้ามาลงทุนใน Bitcoin มองในเชิงบวกอย่างมากว่าราคาของ Bitcoin จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
และตัวชี้วัดสุดท้ายที่ใช้เป็นตัวบ่งบอกอีกหนึ่งอย่างก็คือการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งสุทธิของเว็บเทรดซึ่งทำให้เห็นภาพภาพรวมพฤติกรรมของนักลงทุนรายใหญ่ที่ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 Bitcoin จำนวนกว่า 100,000 BTC ได้ออกจากเว็บเทรดแบบรวมศูนย์ซึ่งนั่นก็หมายความว่าแรงขายในตลาดจะมีน้อยลงและจะไม่สงผลให้ตลาดเป็นขาลง