การวิจัยที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ 24 พฤษภาคมโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุว่าหนึ่งในสิบครัวเรือนในยูโรโซนได้ซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin ไว้เป็นจำนวนมากโดยมีแนวโน้มการถือครองที่นักลงทุนรายใหญ่มากกว่านักลงทุนรายย่อย
ตามที่ ECB ได้ระบุไว้ในการเผยแพร่ล่วงหน้า “จากการตรวจสอบเสถียรภาพทางการเงินพบว่าความผันผวนล่าสุดไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งผลกระทบไปยังระบบทางการเงินทั่วโลก แม้ว่าภัยคุกคามก็เพิ่มขึ้นเมื่อนักลงทุนสถาบันเพิ่มมากขึ้นก็ตาม”
อันที่จริงนักลงทุนรายย่อยเป็นตัวแทนของฐานการลงทุน crypto ส่วนใหญ่
“จากการสำรวจความคาดหวังของผู้บริโภค (CES) ของ ECB สำหรับ 6 ประเทศในเขตยูโรโซนขนาดใหญ่ บ่งชี้ว่าอาจมีครัวเรือนมากถึง 10% ที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัล”
“เนื่องจากเป็นตลาดระดับโลกและเป็นปัญหาระดับโลก จึงจำเป็นต้องมีการประสานงานระดับโลกด้านมาตรการกำกับดูแล จากการพัฒนาที่สังเกตได้ในปัจจุบัน ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังแสดงสัญญาณทั้งหมดของความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินที่เกิดขึ้นใหม่”
แนวโน้มการถือครอง crypto
การสำรวจความคาดหวังของผู้บริโภคของ ECB พบว่ามีครัวเรือนเฉลี่ยกว่า 10% ใน 6 ประเทศที่มีการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล โดยฝรั่งเศสถือครองประมาณ 6% และเนเธอร์แลนด์ 14%
ประมาณ 37% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีสกุลเงินดิจิทัลในกระเป๋าเงินน้อยกว่า 999 ยูโรหรือประมาณ 1,065 ดอลลาร์ ในขณะที่ 29% มีกาารถือครองอยู่ที่ 1,000 – 4,999 ยูโร และ 13% อยู่ระหว่าง 5,000 – 9,999 ยูโร และ 20% มีแนวโน้าที่จะถือครองมากที่สุด
“โดยเฉลี่ยแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในแถบยูโรมักจะมีการศึกษาระดับปริญญาเป็นส่วนใหญ่”
ปัญหากฎระเบียบ Crypto
ECB ย้ำถึงสถานะที่ถืออยู่มาระยะหนึ่งแล้ว ECB กล่าวว่าสินทรัพย์ที่เป็นปัญหาไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนทั่วไปส่วนใหญ่ และสนับสนุนให้หน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรป “เร่งด่วน” ในการจัดตั้งกฎหมายใหม่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
ธนาคารกลางยุโรปพิจารณาว่าการพัฒนาครั้งใหญ่ทั้งในด้านขนาดและความซับซ้อนของตลาด crypto อุตสาหกรรมนี้กำลังอยู่ในทางที่จะกลายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางการเงินโดยรวมของประเทศและจำเป็นต้องมีกฎระเบียบอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม ประธานธนาคารกลางยุโรป Christine Lagarde ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนเกี่ยวกับจุดยืนของเธอ เกี่ยวกับมูลค่าของสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลโดยได้กล่าวว่า “crypto นั้นมันไม่มีค่าอะไรเลย”