นักเทรดรายหนึ่งเผยตัวแปรที่อาจทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงไปถึง 23,000 ดอลลาร์

ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เห็นความผันผวนของราคา Bitcoin เกิดขึ้นราวกับรถไฟเหาะ โดยราคานั้นได้พุ่งขึ้นไปแตะ 31,500 ดอลลาร์ก่อนที่จะร่วงลงมาต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์ภายในวันเดียวกัน

โดยในตอนนี้เหรียญ BTC นั้นจะยังคงไซด์เวย์อยู่ที่ระดับ 29,900 ดอลลาร์

ซึ่งมันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการไซด์เวย์ดังกล่าวนี้จะตามมาด้วยการพุ่งขึ้นของราคาต่อหรือจะร่วงลงต่อ

ในที่ขณะที่ด้านนักวิเคราะห์ Michaël van de Poppe ได้ออกมาชี้ว่าราคาของ Bitcoin นั้นจำเป็นที่จะต้องวิ่งผ่าน 31,500 ดอลลาร์ให้ได้เสียก่อน มันถึงจะกลายเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรงได้ในภายหลัง

ทว่าอย่างไรก็ตามมันมีหนึ่งตัวแปรที่บ่งบอกถึงโอกาสที่ราคานั้นจะร่วงลงอย่างรุนแรงได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งตัวแปรที่ว่านั้นก็คือช่องว่างบนกราฟของตลาด CME หรือที่เรียกว่า CME GAP

Bitcoin ยังคงอยู่ในช่วงไซด์เวย์

โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ราคาของ BTC นั้นถูกซื้อขายกันอยู่ที่ราว ๆ 29,940 ดอลลาร์ ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่มันยังคงไซด์เวย์อยู่ได้หลังจากที่ร่วงลงมาจากระดับ 30,000 ดอลลาร์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

การไซด์เวย์ดังกล่าวนี้ส่งผลทำให้นักเทรดหลาย ๆ คนที่เคยมองเทรนด์ราคาว่าเป็นขาขึ้นต้องเริ่มแสดงความลังเลใจแล้วว่าราคา Bitcoin นั้นอาจจะร่วงลงต่อ ประกอบกับสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกที่กำลังย่ำแย่ในปัจจุบัน

ช่องว่างบนตลาด CME อาจทำให้ราคา Bitcoin ร่วงแตะ $23,000

นักเทรดรายหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าการที่ Bitcoin ไม่สามารถทำราคาทะลุ 31,500 ดอลลาร์ไปได้นั้นส่งผลทำให้ราคา Bitcoin ร่วงกลับลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่บริเวณ 30,000 ดอลลาร์ และหากแนวรับนี้เอาไม่อยู่ ราคาอาจกลายเป็นขาลงต่อในไม่กี่วันที่จะถึงนี้

“ตอนนี้มีช่องว่างบนกราฟ CME สำคัญ ๆ ทั้งสองช่องที่ถูกเปิดไว้อยู่ ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้ที่ราคาจะลงไปปิดในอนาคตอันใกล้นี้ นั่นก็คือระดับราคาที่ $23,300 และ $18,300” กล่าวโดยนักวิเคราะห์รายหนึ่ง

หากว่าราคาของ Bitcoin ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 30,000 ดอลลาร์ได้ นั่นหมายความว่ามันมีโอกาสที่จะวิ่งไปปิดช่องว่างที่ $23,300 ด้านล่าง หรือเราก็อาจจะได้เห็นมันลงไปปิดช่องว่างบนกราฟตลาด CME ที่ $18,300 เลยก็ได้ ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป

คำเตือน : การลงทุนในตลาดคริปโตเคอเรนซี่นั้นมีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุน บทความนี้เป็นเพียงการรายงานบทวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์รายงานเท่านั้น ผู้ลงทุนไม่ควรใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุน ทางสยามบล็อกเชนจะไม่รับผิดชอบในการสูญเสียใด ๆ ทุกกรณี