ตามรายงานของ The Wall Street Journal พบว่า ในขณะนี้แพลตฟอร์มการให้กู้ยืมคริปโตที่กำลังประสบปัญหาทางด้านการเงินอย่าง “Celsius (CEL)” นั้นมีความเสี่ยงสูงกว่ากู้เงินกับธนาคาร
แพลตฟอร์มการให้กู้ยืมประสบปัญหาร้ายแรงในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา จากการระงับการถอนเงินและต้องเผชิญการสอบสวนจากหลายหน่วยงานในสหรัฐฯ
ตามเอกสารที่ WSJ เห็น Celsius ได้ออกเงินกู้จำนวนมาก โดยมีหลักประกันในจำนวนที่เรียกได้ว่าน้อยมากและแน่นอนว่าหลักประกันในจำนวนที่น้อยนั้นจะทำให้มีความเสี่ยงสูงและความปลอดภัยก็ลดลงตามไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ตลาดคริปโตนั้นยังอยู่ในช่วงขาลง
ด้วยตัวของบริษัทเองตอนนี้ หากพูดกันตามตรงแล้วละก็ยังคงยากที่จะให้บริษัทได้กลับมาเปิดให้ถอนได้ใหม่อีกครั้ง เนื่องจากหากกลับมาเปิดให้ถอนบริษัทอาจเผชิญ กับ Bankrun ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ผู้ใช้บริการแห่ถอนเงินออกในเวลาพร้อม ๆ กัน
จากสถิติตามเอกสารการลงทุน ในช่วงปี 2017 Celsius ได้สะสมสินทรัพย์รวมแล้วเป็นมูลค่ากว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์และมีส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ราว ๆ 1 พันล้านดอลลาร์ สิ่งนี้ทำให้บริษัทมีอัตราส่วนสินทรัพย์ต่อทุน 19:1 ซึ่งเกือบสองเท่าของจำนวนสินทรัพย์เฉลี่ยต่ออัตราส่วนสำหรับธนาคารในอเมริกาเหนือทั้งหมด ซึ่งอยู่ที่ 9:1
อัตราส่วนนี้ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงความเสี่ยงสำหรับนักลงทุน เนื่องจากสินทรัพย์บางส่วนอยู่ในรูปของสินทรัพย์ดิจิทัลที่รู้ดีอยู่แล้วว่ามีความผันผวนสูง ซึ่งตรงกันข้ามกับธนาคารแบบดั้งเดิมที่มีสินทรัพย์อยู่ในภาคธุรกิจที่มีเสถียรภาพมากกว่าและสามารถเข้าถึงเงินกู้จากธนาคารกลางได้
ในปี 2021 Celsius สามารถระดมทุนเงินกว่า 750 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนเพื่อขยายระบบการปล่อยสินเชื่อในแพลตฟอร์มการให้กู้ยืมของ Celsius และได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างรวดเร็วม เนื่องจากมีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูง หากฝากเป็นเหรียญคริปโต อัตราดอกเบี้ยคิดเป็น 18.6% ต่อปีจากการฝากเงินคริปโตบนแพลตฟอร์ม และ 7.1% สำหรับ stablecoin ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยสำหรับบัญชีออมทรัพย์ที่อยู่ที่ ประมาณ 0.1%
แต่ในปีนี้ต้องยอมรับเลยว่าแพลตฟอร์ม Celsius กำลังอยู่ในช่วงที่ประสบปัญหาอย่างรุนแรง โดยต้นเดือนมิถุนายน ได้มีข่าวลืออีกว่า CEO ของ Celsius นั้นได้พยายามหนีออกจากประเทศ