ตลาดคริปโตมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา และตอนนี้ตลาดคริปโตกำลังกลับมาให้ความสำคัญกับ Bitcoin (BTC) อีกครั้ง โดยราคา Bitcoin ทะลุระดับ 37,000 ดอลลาร์ไปแล้ว ท่ามกลางความคาดหวังอย่างสูงของนักลงทุน
ราคา Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความน่าดึงดูดใจของคริปโต เนื่องจากราคา Bitcoin เข้าใกล้จุดสำคัญที่ 40,000 ดอลลาร์ และมีโอกาสแตะจุดสูงสุดในปี 2023
มูลค่าตลาดคริปโตทั่วโลกในขณะนี้ สูงถึง 1.42 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมากว่า 0.50% โดยแสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น
แนวโน้มขาขึ้นของ Bitcoin นี้ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากแผนการอนุมัติ Bitcoin spot ETF ที่ได้รับการอัปเดตจาก Grayscale และเป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกของตลาดคริปโต
ในขณะเดียวกัน เครือข่าย Bitcoin กำลังเผชิญหน้ากับค่าธรรมเนียมก๊าซที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นการพัฒนาที่เน้นการเพิ่มขึ้นของกิจกรรม และความท้าทายภายในระบบนิเวศบล็อคเชน
การอัปเดตจาก Grayscale เกี่ยวกับ Bitcoin spot ETF ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต
Grayscale บริษัทจัดการกองทุนคริปโตชั้นนำได้ออกมาประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับแผน Bitcoin exchange-traded fund (ETF) เวอร์ชันปรับปรุง หลังจากการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC)
สิ่งสำคัญของการอัปเดตครั้งนี้ คือ ข้อเสนอในการเปลี่ยนแปลงตัวย่อของ Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) เป็น BTC
ข้อมูลเชิงลึกของ James Seyffart นักวิจัยจาก Bloomberg ระบุว่า การอัปเดตเอกสารนี้ บ่งชี้ได้ว่า Grayscale ได้มีการเจรจากับ SEC อย่างต่อเนื่อง และหนังสือชี้ชวนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นี้ มีข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งซื้อเงินสดน้อยลง และละเว้นในหน้า “การเปิดเผยความเสี่ยง” บางหน้า ซึ่งจะทำให้นักลงทุนต้องกลับไปอ้างอิงที่เอกสารก่อนหน้าแทน
การพัฒนานี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมระหว่างผู้บริหารของ Grayscale และแผนกการค้าและการตลาดของ SEC ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมโดยทั่วไป ดังตัวอย่างจาก BlackRock ซึ่งเป็นผู้เล่น ETF รายใหญ่อีกรายหนึ่ง ที่กำลังศึกษาการเปิดตัว Bitcoin ETF และกำลังขออนุมัติจาก SEC
การประกาศ Bitcoin ETF ที่อัปเดตของ Grayscale และการเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์ ที่คาดว่าจะเป็น BTC และมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อราคาของ Bitcoin มากขึ้น
การเคลื่อนไหวนี้คาดว่า จะช่วยเพิ่มการเข้าถึง และความชอบธรรมของ Bitcoin ซึ่งอาจดึงดูดนักลงทุนสถาบันได้มากขึ้น และหนุนความเชื่อมั่นของตลาดโดยรวม
คำถามตามมา เมื่อค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม Bitcoin พุ่งสูงขึ้น
ขณะนี้เครือข่าย Bitcoin กำลังประสบปัญหาการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมอย่างมาก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ นักเทรดต้องจ่ายค่าธรรมเนียมจำนวน 83.65 BTC หรือประมาณ 3.14 ล้านดอลลาร์สำหรับการทำธุรกรรมเพียงครั้งเดียว
หรือหากนักลงทุนต้องการจะโอน 139.42 BTC หรือคิดเป็นมูลค่า 5.23 ล้านดอลลาร์ จะสามารถส่งเหรียญให้ผู้รับได้เพียง 55.77 BTC เพราะถูกหักค่าธรรมเนียมจำนวนมาก
เหตุการณ์นี้ถูกโพสต์ไว้บน Twitter โดยตอกย้ำถึงความไม่แน่นอนของค่าธรรมเนียมเครือข่าย Bitcoin ที่ขาดมาตรฐาน แม้ว่าค่าธรรมเนียมที่สูงเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ยาก แต่เมื่อเกิดขึ้นก็สร้างความสนใจได้ทันที และยังไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้สามารถบ่งบอกถึงแนวโน้มภายในเครือข่ายได้หรือไม่
ต้นทุนการทำธุรกรรมของ Bitcoin ที่สูงตั้งแต่ในอดีต เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนหงุดหงิดมานานแล้ว และปัญหานี้ก็เริ่มรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้ความนิยมของ Ordinal inscription และโทเค็น BRC-20 เพิ่มขึ้น
เพื่อเป็นการตอบสนองต่อปัญหา Lightning Network ซึ่งเป็นโซลูชันการปรับขนาด Layer 2 จึงได้รับการพัฒนาขึ้น เพื่อช่วยลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม ซึ่งการบูรณาการเทคโนโลยีนี้โดย Coinbase Global Inc ได้รับการยกย่องจาก Cathie Wood ว่า นี่เป็นก้าวสำคัญสู่การนำคริปโตมาใช้ในวงกว้างมากขึ้น
ดังนั้น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม Bitcoin ที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ และการพัฒนาโซลูชันอย่างต่อเนื่องเช่น Lightning Network จึงมีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลต่อราคาของ BTC
การพัฒนาเหล่านี้สามารถผลักดันความต้องการเกี่ยวกับวิธีการทำธุรกรรมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายในระบบนิเวศของ Bitcoin ได้
การคาดการณ์ราคา Bitcoin
จุดกลับตัวของราคา Bitcoin อยู่ที่ 37,145 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในระยะสั้น โดยระดับแนวต้านอยู่ที่ 38,020 ดอลลาร์, 38,685 ดอลลาร์ และ 39,250 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 36,400 ดอลลาร์ ตามด้วย 35,750 ดอลลาร์ และ 35,185 ดอลลาร์
Relative Strength Index (RSI) ของ Bitcoin ปัจจุบันอยู่ที่ 56 ซึ่งมีแนวโน้มเป็นบวก แต่ไม่ได้มากจนเกินไป
Bitcoin มีการซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ย 50-Day Exponential Moving Average (EMA) อย่างมีนัยสำคัญที่ 36,800 ดอลลาร์ ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น
การวิเคราะห์กราฟเผยให้เห็นรูปแบบ Triple Top ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวต้านที่ประมาณ 37,500 ดอลลาร์ โดยทั่วไปกราฟรูปแบบนี้จะส่งสัญญาณถึงความลังเลในตลาดคริปโต ซึ่งอาจจำกัดการเคลื่อนไหวของราคาขาขึ้นได้
แผนภูมิ Bitcoin จาก Tradingview
เมื่อพิจารณาจากตัวบ่งชี้ทางเทคนิคเหล่านี้ แนวโน้มโดยรวมของ Bitcoin ดูเหมือนจะอยู่ในภาวะขาขึ้นเหนือระดับ 37,145 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การลดลงต่ำกว่าจุดหมุนของ Bitcoin อาจเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลงได้
ในระยะเวลาอันใกล้นี้ คาดว่าราคา Bitcoin จะทดสอบระดับแนวต้านที่ 38,020 ดอลลาร์ โดยต้องจับตาดูรูปแบบ Triple Top ที่อาจกำหนดความสามารถของสินทรัพย์ ในการทะลุระดับแนวต้านเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
15 อันดับคริปโตเคอเรนซี่ที่น่าจับตามองในปี 2023
ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับโลกแห่งคริปโต ด้วยการสำรวจคอลเลกชันของ 15 อันดับคริปโตเคอเรนซี่ที่ดีที่สุด และโครงการ ICO ที่เราคัดสรรมาอย่างดีในปี 2023 รายชื่อที่เราคัดเลือกมาได้รับการจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Industry Talk และ Cryptonews เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า จะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และได้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญสำหรับการลงทุนในคริปโตของคุณ
ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เพื่อค้นหาการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ และติดตามข้อมูลอยู่เสมอ
ไปยัง 15 อันดับคริปโตเคอเรนซี่
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์