นับจากการเปิดตัว ChatGPT แชทบอท AI โดย OpenAI ที่สร้างกระแสความนิยมให้แก่ผู้คนทั่วโลก นำมาสู่การพัฒนา AI ต่าง ๆ ทั้งที่เป็น AI แชทบอท, AI ที่สามารถสร้างภาพได้ตามคำสั่ง ไปจนถึง AI ที่สามารถจำลองเสียงตามที่ผู้ใช้งานต้องการหรือ “ร้องเพลง” ได้ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมบนแพลตฟอร์มอย่าง Youtube และ TikTok
หนึ่งในคนที่ถูกนำเสียงมาร้องเพลงโดย AI คือ “9arm” เจ้าชายวงการ IT ชาวไทย ที่บัญชี Youtube ชื่อ Covera – Ai Cover นำเสียงมาฝึก AI เพื่อให้ร้องเพลง จี่หอย ของ พี สะเดิด ได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับ 9arm ร้องด้วยตัวเอง
AI ที่ถูกนำมาใช้ดัดแปลงเสียงในครั้งนี้คือ RVC (Retrieval-based-Voice-Conversion) AI ที่กำลังได้รับความนิยมไม่ว่าจะเป็นในหมู่ผู้สร้างคอนเทนต์ชาวไทยหรือชาวญี่ปุ่น ซึ่งผู้ใช้งาน AI ดังกล่าว สามารถนำเสียงจริงของบุคคลหรือตัวละครที่ต้องการ มาฝึก AI เพื่อให้พูดหรือร้องเพลงตามที่ต้องการได้ราวกับเป็นเสียงจากมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ สร้างความตื่นเต้นและความสนุกสนานในหมู่ชุมชนชาวเน็ตเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความตื่นเต้นของโลกอินเทอร์เน็ต ผู้คนบางส่วนได้แสดงความกังวลว่า การนำ AI ที่สามารถเลียนแบบและดัดแปลงเสียงได้อย่างสมจริง อาจนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในบางวงการ เช่น วงการนักพากษ์ ที่อาจนำ AI เข้ามาให้เสียงพากษ์แทนการจ้างนักพากษ์เพื่อลดค่าใช้จ่าย หรือเหตุการณ์ที่นักพากษ์เสียงอังกฤษของ Sakura Futaba ตัวละครจากเกม Persona 5 ถูกนำเสียงไปฝึก AI โดยไม่ยินยอม นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างชาวเน็ตที่ให้การสนับสนุนการใช้ AI กับนักพากษ์ผู้เป็นเจ้าของเสียง ส่งผลให้เธอปิดบัญชี Twitter และ Instagram ในที่สุด
การใช้ AI จึงเป็นดังดาบสองคมที่สร้างได้ทั้งประโยชน์และโทษแก่บุคคลต่าง ๆ ทั้งในวงแคบและในวงกว้าง ทั้งการพัฒนา AI อย่างรวดเร็ว ยังทำให้ในปัจจุบัน กฎหมายต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านลิขสิทธิ์ยังไม่รองรับ ทิศทางการใช้ AI ในอนาคตจึงยังคงเต็มไปด้วยข้อกังวลและความพร่าเลือนระหว่างความบันเทิงและการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
อ้างอิง: