<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้เชี่ยวชาญชี้ ! สงครามระหว่างหน่วยงานด้านกฎหมายและวงการ Crypto เพิ่งแค่ “เริ่ม” เท่านั้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ข่าวการโจมตี Paxos โดย SEC เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้สร้างผลกระทบที่รุนแรงต่อตลาด Crypto ซึ่งทำให้ราคาเหรียญ Crypto ส่วนใหญ่มีมูลค่าร่วงดิ่งลง นำโดยเหรียญ BNB ที่มีมูลค่าร่วงลงต่ำกว่า 300 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในช่วง 30 วัน และมูลค่าตลาด Crypto ที่ร่วงลดลงกว่า 2.5%

Marcus Sotiriou นักวิเคราะห์ตลาดจาก GlobalBlock บริษัทโบรคเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัล  กล่าวว่า คำสั่งดำเนินคดีต่อ Paxos ของ NYDFS และ SEC แสดงให้เห็นว่า ศึกระหว่างหน่วยงานทางกฎหมายและวงการ Crypto พึ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น 

โดยเขาได้เขียนแสดงความคิดเห็นในเอกสารที่ส่งถึงลูกค้าของบริษัทในวันจันทร์ ชี้ให้เห็นว่า การที่ NYDFS สั่งให้ Paxos หยุดดำเนินการผลิตเหรียญ BUSD และระบุว่า BUSD มีสถานะเป็น “หลักทรัพย์ที่ไม่ได้ทำการจดทะเบียน” เป็นเหมือนตัวชี้วัดที่บอกใบ้เป็นนัย ๆ แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

เขายังกล่าวด้วยว่า ข้อกล่าวหาที่มีต่อ Paxos ในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่ “ไม่ถูกต้อง” เท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดอุตสาหกรรมคริปโตเกิดความสับสนอีกด้วย

“การกระทำของ SEC แสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง พวกเขาแปะป้าย BUSD เป็นหลักทรัพย์ แม้ว่าเหรียญ Stablecoin ที่ทำการ peg นี้ไม่ได้จุดประสงค์ที่จะสร้างผลกำไรและมีราคาที่แน่นอน เหมือน Gift Card ที่เก็บรักษามูลค่าเอาไว้เท่านั้น”

การดำเนินคดีของ SEC ต่อ Paxos ถูกประกาศออกมาหลังจาก Kraken บริษัทผู้ให้บริการเว็บเทรด Crypto ชั้นนำของสหรัฐฯ ได้ถูกสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 30 ล้านดอลลาร์และถูกสั่งให้ต้องยุติการเปิดให้บริการ Staking เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

“ผู้คนกำลังพยายามหาวิธีการนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างถูกกฎหมาย แม้ว่าจะไม่ได้รับคำแนะนำใด ๆ ก็ตาม”

ในความคิดเห็นของเขา หน่วยงานทางกฎหมายต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ได้ล้มเหลวในให้ความชัดเจนกับวงการ Crypto และ SEC ได้ใช้วิธีการ “บังคับใช้กฎหมาย” แทน เห็นได้จากคดีฟ้องร้อง Crypto ที่เพิ่มขึ้นถึง 42% ในปี 2022

ตามคำกล่าวของเขา การที่คดีฟ้องร้องด้าน Crypto เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐฯ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า สงครามระหว่าง SEC กับวงการ Crypto ยังเพิ่งแค่เริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้นวัตกรรม Crypto ถูกบีบให้ไปปักหลักปักฐานในประเทศอื่นที่ไม่ใช่สหรัฐฯ แทน

Changpeng Zhao CEO บริษัท Binance กล่าวว่า นี่อาจเป็นกรณีศึกษาสำหรับเว็บเทรด หาก BUSD ได้จัดประเภทเป็นหลักทรัพย์

“เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในตอนนี้  พวกเราจะตรวจสอบโปรเจกต์อื่นๆ ในเขตอำนาจศาลที่มีความเสี่ยง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้ของเราได้รับการปกป้องจากอันตรายที่ไม่เหมาะไม่ควร”

ที่มา: CoinJournal