“หากมีใครบอกคุณว่ามันทำไม่ได้ หมายความว่าเขานั้นทำไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่คุณ ดังนั้นจงเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วแม้แต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้จะเป็นไปได้ พวกเรานี่แหละคือหลักฐาน” นี่คือคำกล่าวของ Bryce Weiner สุดยอดคุณพ่อหัวใจแกร่งที่จะทำให้คุณต้องตราตรึงใจไปอีกแสนนาน
นี่เป็นเรื่องราวของคุณพ่อสุดแกร่งที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาปลอดภัย ซึ่งในปี 2024 นี้ก็นับเป็นการครบรอบปีที่ 14 ของเหตุการณ์สุดเหลือเชื่อนี้ โดยคำพูดที่กล่าวข้างต้นมาจากโพสต์ทวีตของ Bryce Weiner เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้ออกมาแชร์เรื่องราวนี้เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน
ในบทความนี้ทางสยามบล็อกเชนจะพยายามประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน เนื่องจากตัวของ Bryce Weiner เน้นย้ำชัดเจนว่าตัวเขาเองนั้น “ไม่เคย” บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้สื่อแห่งไหนได้รับรู้แม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงได้ปฏิเสธการสัมภาษณ์มาโดยตลอด เนื่องจากต้องการรักษาความปลอดภัยให้กับครอบครัวของเขา
มหากาพย์การผจญภัยครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงปี 2010 ที่จู่ ๆ วันหนึ่งลูกสาวสุดรักอายุ 14 ปี ของเขาก็หายตัวไปจากหมู่บ้านอย่างไร้ร่องรอย หลังจากที่ออกไปปั่นจักรยานเล่น เหตุการณ์นี้ทำให้หัวใจของเขาแตกสลาย เขาต้องหย่าร้างกับภรรยา ออกจากงาน ขณะที่เขาเอาเรื่องนี้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางหน่วยงานกลับเพิกเฉยต่อคดีนี้ และแทนที่จะเป็นคดี “ลักพาตัว” เจ้าหน้าที่กลับทำคดีนี้เป็นแค่เด็ก “หนีออกจากบ้าน”
ตอนนี้ชีวิตเขาพังยับเยิน ในหัวเขามีเพียงเป้าหมายเดียวคือ การช่วยเหลือลูกสาวเขาให้ได้ เขาจึงนำเงินเก็บที่มีนำมาเริ่มเรียนรู้วิถีของอาชญากร เพื่อที่จะได้รู้ว่าโลกอีกใบที่เขาต้องเข้าไปเพื่อช่วยลูกสาวของเขาเป็นอย่างไร
เวลาผ่านไปได้ 3 ปี เขาได้เห็นถึงอะไรบางอย่างจากเพจเฟซบุ๊กที่เขาได้สร้างโดย เป็นเฟซบุ๊กที่เป็นชื่อลูกสาวเขา นั่นทำให้ชีวิตของเขาเริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง หลัง ลูกสาวของเขาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมาหาเขา โดยในระยะเวลาก่อนหน้านั้นเธอทุกทุบตี ทำร้ายร่างกาย และจิตใจ ซึ่งเหตุการณ์จริงอาจโหดร้ายกว่าที่เขานำมาเล่าเป็นอย่างมากก็เป็นได้ นอกเหนือจากนั้นเธอยังถูกริบเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด และถูกกักขังไว้ รวมถึงไม่ให้เงินใช้จ่ายใด ๆ จนเวลาผ่านไปเธอถึงจะได้สิทธิในการใช้งานโทรศัพท์และเริ่มติดต่อพ่อของเธอผ่านทางการค้นหาชื่อตัวเองจาก google จนนำไปสู่แฟนเพจ จากนั้นจึงได้เปลี่ยนวิธีสื่อสารเป็นอีเมล์แทน
จุดไคลแมกซ์ของเรื่องนี้ตกเป็นของหน่วยงานรัฐของทั้ง 2 ประเทศ เพราะไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือ FBI กลับไม่ให้ความช่วยเหลือใด ๆ ในคดีนี้ จึงเป็นเหตุให้ Bryce เหลืออดและออกเดินทางไปช่วยลูกสาวของเขาด้วยตัวเอง ซึ่งคิดเป็นระยะทางกว่า 5,000 ไมล์ (8,000 กิโลเมตร) หรือต้องขับรถด้วยความเร็วสูงต่อเนื่องถึง 31 ชั่วโมง จากบ้านของเขาไปยังประเทศเม็กซิโกที่ ๆ ลูกสาวของเขาถูกจับตัวไป
เขาเล่าว่าการเดินทางครั้งนี้นั้นใช้ค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมหาศาลแต่โชคยังดีที่เขาเคยขุด Bitcoin ทิ้งไว้ 150 BTC พร้อมกันกับเพื่อนของเขา ซึ่งเพื่อนเขาใช้มันในการลงทุน start-up แต่เขาใช้มันกับภารกิจนี้ ซึ่งตัวของ Bryce คิดว่ามันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
Bryce เริ่มภารกิจของเขาโดยการปลอมตัวเองเป็นอีกบุคลิกหนึ่งและพยายยามเข้าออกประเทศเม็กซิโกบ่อย ๆ รวมถึงขับรถเข้าไปในเขตของมาเฟียค้ายา เพื่อสร้างความคุ้นเคย โดยไม่สนใจคำเตือนจากตำรวจที่เขาอ้างว่าวัน ๆ ไม่ทำอะไรนอกจาก คอร์รัปชั่น เมื่อเขาสามารถเข้าใกล้เมืองเล็ก ๆ ที่ลูกสาวเขาอยู่ได้นั้น Bryce ได้ปลอมตัวเป็นขอทานใบ้เพราะจะได้ไม่ถูกจับได้เนื่องจากเขาพูดภาษาสเปนไม่คล่อง และทำการสำรวจรอบ ๆ เมือง จากนั้นเขาจึงได้ “อัดฉีด” เงินเข้าไปในเมืองโสโครกแห่งนี้ทุกวัน ๆ (เขาไม่ได้ขยายความว่าเขาได้ทำอะไรลงไปในจุดนี้) ตลอดระยะเวลา 6 อาทิตย์ จนประชากรในเมืองถูกมอมเมา และเคลิบเคลิ้มตลอดทั้งวันทั้งคืน จากนั้นเขาจึงฉวยโอกาสแอบพาลูกสาวออกมาจากเมืองแห่งนั้นไปยังสถานฑูตอเมริกา โดยที่ลูกสาวเขาไม่คาดคิดเลยว่าคนที่จะมาช่วยคือพ่อของเธอเอง
เรื่องราวนี้นั้นไม่ได้เหมือนกับนิทานที่จะมีตอนจบสวยงาม และโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะกรณีของ Bryce นั้นเขาไม่สามารถพาลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองเข้าประเทศได้เนื่องจากไม่มีทะเบียนราษฎร์ เขาจึงต้องยอมถูกเจ้าหน้าที่รัฐจับกุม และค่อยไปเคลียร์กันในภายหลัง ซึ่งภายหลังเขาก็ถูกศาลตัดสินริบสถานะผู้ปกครอง และต้องทำให้ลูกสาวของเขาตกอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐ และต้องไปอยู่ในสถานสงเคราะห์เนื่องจากเขากล่าวว่ารัฐบาลเข้าใจสิ่งที่เขาสื่อสารผิด แม้ว่าตัวของเขาเองนั้นต้องประสบกับภาวะ PTSD หลังจากเหตุการณ์นี้ก็ตาม
และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เราสรุปมาได้จากคำบอกเล่าของตัว Bryce Weiner เอง ซึ่งก็มีชาวเน็ตหลายคนวิจารณ์ว่าไม่มีมูลความจริง แต่คำกล่าวถึงความปลอดภัยของครอบครัวเขาก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไม่เขาถึงไม่อยากเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ใครฟัง
อย่างไรก็ตามใครจะไปคิดว่าเขาจะสามารถทำสิ่งที่แม้แต่หน่วยงานรัฐยังทำไม่ได้ให้สำเร็จ อีกทั้งยังโชคดีที่การลงทุนเสี่ยงดวงของเขาใน Bitcoin จะย้อนกลับกลับมาช่วยชีวิตลูกสาวของเขาในภายหลัง เรียกได้ว่าดวงเฮงไม่พอคุณพ่อต้องมีกึ๋นเอาตัวรอดที่เก่งมาก เพราะใครจะกล้าเอาตัวเองเข้าไปอยู่กลางดงแก๊งค้ายาเสพติด
ที่มา : X