Solana (SOL) เป็นหนึ่งในคริปโตเคอเรนซีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วงตลาดขาขึ้นที่ผ่านมา ได้ดึงดูดความสนใจทั้งจากนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากความสามารถในการปรับขนาดเครือข่าย (scalability) และประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม (transaction efficiency) ที่ยอดเยี่ยม ในบทความนี้เราจึงจะมาแนะนำ 2 เหรียญคู่แข่งที่น่าจับตามองของ Solana สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2024
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคา SOL มีการเติบโตอย่างน่าประทับใจถึง 19,873% ในปี 2021 และราคาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากจุดต่ำสุดในปี 2022 โดยในช่วงตลาดขาขึ้นที่ผ่านมา ราคาของ SOL เคยพุ่งขึ้นจาก 1 ดอลลาร์ ไปเป็น 260 ดอลลาร์ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 12 เดือน ต่อมาราคาก็ปรับตัวขึ้นจาก 8 ดอลลาร์ เป็น 204 ดอลลาร์ ภายในระยะเวลาหนึ่งปีครึ่ง ซึ่งในปัจจุบัน ราคามีการซื้อขายกันอยู่ที่ 140 ดอลลาร์ต่อโทเค็น
กราฟ SOL/USD รายสัปดาห์ ที่มาจาก: TradingView (ดัชนี CRYPTO)
Solana (SOL) วางตัวเองเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของ Ethereum (ETH) ซึ่งเป็นผู้นำใน ด้าน Web3 และ DeFi (Decentralized Finance) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครือข่าย Solana มีจุดเด่นที่เหนือกว่า Ethereum ในด้านปริมาณธุรกรรมที่รองรับได้ต่อวินาที (transactions per second – TPS) ทำให้การยืนยันธุรกรรมรวดเร็วขึ้น และมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า
ในขณะนี้ มีคู่แข่งของ Solana 2 รายที่พัฒนาเครือข่ายให้มีปริมาณธุรกรรมสูงต่อเนื่องอย่างเงียบๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่คล้ายคลึงกัน เมื่อพิจารณาในด้านเทคโนโลยีแล้ว คริปโตเคอเรนซีทั้ง 2 เหรียญนี้ มีจุดเด่นที่ tech stack ซึ่งมีความสามารถในการปรับขยายขนาดได้ดี มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยังคงกระจายศูนย์ (decentralized)
คู่แข่ง Solana ที่น่าจับตามอง : MultiversX (EGLD) และ Radix (XRD) การลงทุนเดิมพันในอนาคตที่ใช้เทคโนโลยี ‘sharding’
2 เหรียญคู่แข่งที่น่าจับตามองของ Solana ได้แก่ MultiversX (EGLD) และ Radix (XRD) โดยทั้งคู่มุ่งเน้นการปรับขยายขนาดเครือข่ายผ่านเทคโนโลยีชาร์ดิ้ง (sharding) ที่น่าสนใจคือ ระบบขนาดใหญ่ส่วนมากของโลก อาศัยฐานข้อมูลแบบชาร์ดิ้ง (sharding) ในการปรับขยายขนาด ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพพิสูจน์ได้ในการจัดการข้อมูลจำนวนมาก ปัจจุบันแนวคิดนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับแอปพลิเคชันบล็อกเชนบนบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ (decentralized and distributed ledgers)
ในปี 2018 Vitalik Buterin ผู้สร้าง Ethereum ได้กล่าวถึง เทคโนโลยีชาร์ดิ้ง (sharding) และ Proof of Stake ว่า เป็นคุณสมบัติที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ “บล็อกเชนในอนาคต”
Vitalik Buterin กล่าวว่า “บล็อกเชนของอนาคตที่ใช้ระบบ Proof of Stake และ sharding จะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหลายพันเท่า ดังนั้นข้อเสียในด้านความคล่องตัวของการนำข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นไปไว้บนบล็อกเชนจะกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับได้มากขึ้น”
การวิเคราะห์ความสามารถในการปรับขยายขนาด และราคาของ MultiversX (EGLD)
เครือข่าย mainnet ของ MultiversX เป็นเครือข่ายบล็อกเชนแรก และเครือข่ายเดียวที่ใช้งาน sharding ทั้งสามประเภทอย่างครบถ้วน โดยมีทั้ง “sharding เครือข่าย” (network sharding), “sharding สถานะ” (state sharding) และ “sharding ธุรกรรม” (transaction sharding)
โดยพื้นฐานแล้ว MultiversX ปรับขยายขนาดเครือข่ายโดยใช้ โมเดลชาร์ดิ้งแบบปรับตัว (adaptive sharding model) ซึ่งเครือข่ายจะเพิ่มจำนวนชาร์ด (shard) ตามความต้องการใช้งาน โดยแต่ละชาร์ดมีประสิทธิภาพเบื้องต้นที่ 10,000 TPS (Transactions Per Second – ธุรกรรมต่อวินาที) ขณะนี้เครือข่าย MultiversX ทำงานอยู่กับ 3 ชาร์ด
ในขณะที่รายงาน ราคาโทเค็น eGold (EGLD) กำลังซื้อขายอยู่ที่ 28.53 ดอลลาร์ ลดลง 58% ในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาอาจจะถูกเทขายออกมามากเกินไป โดยโทเค็นมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 775 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าตลาดของ Solana 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ อยู่ถึง 83 เท่า
MultiversX (EGLD) กราฟราคาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ที่มา: Finbold
การวิเคราะห์ความสามารถในการปรับขยายขนาดและราคาของ Radix (XRD)
Radix (XRD) ยังไม่ได้นำ sharding มาใช้งานบน mainnet จริง แต่ยังคงอยู่ในการทดสอบ ซึ่งผลเบื้องต้นค่อนข้างมีแนวโน้มที่ดี จุดเด่นของ Radix คือ การที่ทุกธุรกรรมจะมีคุณสมบัติของ atomic composability ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นไร้รอยต่อ แม้ว่าจะมีฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ บนชาร์ดที่แตกต่างกัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการทำงานเบื้องหลังที่ซับซ้อนของระบบ sharding
บทความวิจัยการทดสอบล่าสุดของ Dan Hughes ชี้ให้เห็นว่า เครือข่าย Radix จะสามารถรองรับการ swap ได้มากกว่า 200,000 ครั้งต่อวินาที ซึ่งการ swap เป็นธุรกรรมที่ค่อนข้างซับซ้อน ส่งผลให้ปริมาณธุรกรรมที่รองรับได้มักจะต่ำกว่าค่า TPS ทั่วไป จากการทดสอบบน testnet ด้วยชาร์ดจำนวน 32 ชาร์ด พบว่า เครือข่ายสามารถยืนยันธุรกรรม swap เหล่านี้ได้ภายในเฉลี่ย 3.75 วินาที
เครือข่ายทดสอบ Radix (Radix Testnet) ที่มา: Dan Hughes
ในขณะนี้ ราคาของโทเค็น XRD ของ Radix กำลังซื้อขายอยู่ที่ 0.29 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าราคาขายเหรียญแรก (Initial Coin Offering – ICO) ซึ่งราคาของ XRD ลดลง 28% ในปีนี้ โดยมีมูลค่าตามราคาตลาด (market cap) อยู่ที่ 300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Solana 216 เท่า
กราฟราคา Radix (XRD) ปีต่อปี ที่มา: Finbold
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทั้ง EGLD และ XRD จะมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจ แต่ก็ยังคงเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน เนื่องจากคริปโตเคอเรนซีเหล่านี้ยังมีมูลค่าตามราคาตลาด (market cap)ต่ำ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผันผวนของราคาที่ลดลงได้อีก
ที่มา : finbold