Michael Burry นักลงทุนชื่อดังและบุคคลต้นแบบของตัวละคร Christian Bale ในภาพยนตร์เรื่อง “The Big Short” ดูเหมือนจะกำลังเบนความสนใจไปยังอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ตามรายงานล่าสุดจาก BeInCrypto ระบุว่าบริษัทบริหารกองทุน Scion Asset Management ของ Burry ได้เริ่มเปิด Sell Short ในกลุ่มธุรกิจ Semiconductor หลังจากที่ได้ปิด Sell Short ดัชนีหุ้น S&P 500 และ Nasdaq 100 ก่อนหน้านี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ในตลาดคาดว่า Burry อาจขาดทุนมากถึง -40% จากปิด position ดังกล่าว
Michael Burry มองว่า Semiconductor เป็นขาลง?
ก่อนหน้านี้ มีนักลงทุนพบว่า Burry ได้ทำการเปิด Sell Short ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คิดเป็นจำนวนกว่า 93% ของพอร์ต ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้นักลงทุนจำนวนมากกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจาก Burry มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากการทำนายวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
แต่ล่าสุด Burry ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุน โดยปิด Short position หุ้น S&P 500 และ Nasdaq แล้วทุ่มเงินลงทุนจำนวนมากไปกับการซื้อ put options มูลค่า 47.4 ล้านดอลลาร์ ของกองทุน ETF ของ iShares Semiconductor ซึ่งเป็นกองทุนที่มีหุ้นในบริษัท Semiconductor
กลยุทธ์ใหม่ของ Burry อย่างการปิด position ใน S&P 500 และ Nasdaq 100 สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในแนวทางการลงทุนของเขา นอกจากนี้ การลงทุนในกองทุน ETF ของ iShares Semiconductor อาจเป็นเพราะเขามองว่าราคาหุ้นของบริษัทในกลุ่ม Semiconductor อาจปรับตัวลดลงในอนาคตก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม การที่ Burry หันมาลงทุนในกองทุน ETF ของ iShares Semiconductor นั้นบ่งชี้ว่าเขาอาจมองว่าหุ้น Semiconductor มีความเสี่ยงมากกว่าดัชนีตลาดโดยรวมในขณะนี้
ที่มา: beincrypto