หลังจากที่ราคา Bitcoin เผชิญกับกระแสเทขายจากรัฐบาลเยอรมัน และการชำระหนี้ของเจ้าหนี้ของ Mt. Gox ราคาเหรียญก็ได้ฟื้นกลับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 57,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ทว่าการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นได้ทำให้ชุมชนตั้งคำถามว่าราคาจะเคลื่อนตัวไปทิศทางไหนต่อไป
และเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา เทรดเดอร์ Justin Bennett ได้ออกมาเปิดเผยการวิเคราะห์ของเขาว่าราคา Bitcoin มีโอกาสที่จะร่วงลง หรือพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง หลังแนวโน้มในปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่สำคัญ
โดย Bennett ชี้ว่า ราคา Bitcoin ในตอนนี้กำลังเคลื่อนตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ช่วงระหว่าง 60,162 และ 60,751 ดอลลาร์ ซึ่งอาจเป็นชุดชี้ชะตาว่าราคาเหรียญจะปฏิเสธขาลงและการดีดตัวกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้งหรือไม่
ซึ่งถ้าหากว่าราคา Bitcoin สามารถกลับมายืนเหนือระดับ 58,400 ดอลลาร์ได้ ก็มีโอกาสสูงมากที่ราคาจะขึ้นไปทดสอบระดับ 60,000 ถึง 60,700 ดอลลาร์อีกครั้ง และถ้าหากว่าสามารถยืนเหนือ 60,700 ดอลลาร์ได้ ราคาเหรียญก็มีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นไปสูงถึง 67,000 ดอลลาร์
แต่ถ้าหากราคา Bitcoin ไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 58,400 ดอลลาร์ได้ หรือถูกปฏิเสธแนวต้าน 60,000 ถึง 60,700 ดอลลาร์ ราคามีโอกาสสูงที่จะเคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่า 58,400 ดอลลาร์ และอาจร่วงลงมาหนักถึง 48,185 ดอลลาร์
อีกหนึ่งตัวชี้วัดว่าราคาจะขึ้นหรือลงนั้น คือการประกาศข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคมนี้ ซึ่งอาจปูทางไปสู่จุดยืนของ FED เกี่ยวกับแผนอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Finbold