ในต้นปี 2018 มีจำนวนเหรียญหากนับจำนวนทั้งหมดของเหรียญคริปโตที่มีอยู่ในตลาด นั้นมี 1,384 เหรียญอ้างอิงจาก Coinsmarketcap และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกในอนาคต แม้ว่าคริปโตเคอร์เร็นซี่อย่างเช่น Bitcoin นั้นจะถูกใช้เป็นหลักก็จริง แต่ว่าโทเค็นตัวอื่น ๆ นั้นก็ใช่ว่าจะสามารถถูกมองข้ามไปได้ เนื่องจาก พวกมันก็มีการใช้งานที่เฉพาะตัวด้วยเช่นกัน
เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา Bancor เปิดตัวกระเป๋าเก็บคริปโตนาม Bancor Wallet ซึ่งมีระบบที่สามารถทำให้ผู้ใช้งานแลกเปลี่ยนคริปโตภายในได้ในทันที ซึ่งครอบคลุมเหรียญโทเค็นเกือบ 70 ตัวด้วยกัน นอกจากนี้ทาง Bancor ยังให้สัญญาด้วยว่าจะเพิ่มโทเค็นเข้ามาในกระเป๋าของพวกเขาทุก ๆ วัน
Bancor Wallet นั้นทำให้เราสามารถซื้อโทเค็นตัวไหนก็ได้ที่ระบบของพวกเขารับรอง ด้วยบัตรเครดิต หรือเดบิต และ แลกเปลี่ยนระหว่างโทเค็นได้ทันที Bancor Wallet สร้างจากระบบ Smart Contracts ซึ่งไม่ได้ทำงานด้วยการจับคู่ผู้ซื้อ กับผู้ขายแบบกระเป๋าอื่นๆทั่วไป จึงทำให้ค่าธรรมเนียมต่ำมาก ๆ
โดยปกติแล้วกระเป๋าคริปโตแบบมือถือ จะถูกมองว่ามีความปลอดภัยต่ำ แต่ทาง Bancor ได้ออกมาเผยถึงเหตุผลที่พวกเขาคาดว่ากระเป๋าของเขาจะเหนือกว่าของคู่แข่งเจ้าอื่นๆ
“Bancor ไม่สามารถเข้าถึงกระเป๋าของผู้ใช้ได้ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าเงินนั้นไม่สามารถถูกแฮ็คได้ นอกจากนี้ ทาง Bancor ยังเคยจ้างบริษัทเกี่ยวกับความปลอดภัยเพื่อมาทดสอบระบบอีกด้วย” กล่าวโดยนาย Galia Benartzi ผู้ร่วมก่อตั้ง Bancor และเป็นหัวหน้าฝ่ายความก้าวหน้าด้านธุรกิจ เขายังเสริมอีกด้วยว่า “Bancor เคยได้จัด Campaign ท้าทายทุกคนให้แฮ็คกระเป๋า Bancor ให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่ามีรางวัลให้ด้วยสำหรับคนที่ทำสำเร็จ หรือสามารถระบุ Bugs ของมันได้”
“เรามีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า ระบบการแลกเปลี่ยนโทเค็นแบบอัตโนมัติเป็นอีกก้าวสำหรับกระเป๋าเงินดิจิทัล” นาย Benartzi กล่าว “นวัตกรรมที่แท้จริงไม่ใช่ความคล่องตัวในการพกพา แต่เป็นการที่ทรัพย์สินดิจิทัลสามารถแลกเปลี่ยนกันได้โดยทันที ลองจินตนาการว่า คุณสามารถเอาแต้มจากร้านกาแฟแห่งหนึ่ง หรือ ไมล์ของการเดินทางเครื่องบินที่เก็บไว้ไปใช้แทนเงินสดกับที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ดูสิ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่เป็นแบบนั้น เรายังเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ดังกล่าวระหว่างแพลทฟอร์มกันอยู่ ถ้าคุณสะสมแต้มที่ Amazon คุณก็จะสามารถใช้ได้กับ Amazon เท่านั้น แต่ตอนนี้ข้อจำกัดเหล่านั้นกำลังจะพังทลายลงด้วย Blockchain”
ในปัจจุบัน หลังจากที่พวกเขาระดมทุน ICO ได้สำเร็จ เขาก็ยังสามารถทำตามแผนที่วางไว้ได้อย่างต่อเนื่องในปี 2018
มากกว่านั้น นาย Benartzi ยังกล่าวด้วยว่า “เราได้จัดส่งกระเป๋า Bancor ซึ่งต้องทำให้เสร็จภายใน ไตรมาสแรกของปี 2018 เป็นที่เรียบร้อย และเรากำลังจะเปิดใช้งานระบบที่สามารถใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตได้โดยตรง และเข้ามาอยู่ในกระเป๋าของเราเลย ซึ่งนับว่าเป็นระบบนี้จะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้กับผู้ใช้งานหน้าใหม่ ๆ มากขึ้น ”ในปัจจุบัน มีโทเค็นจำนวน 65 ตัวที่ระบบรองรับ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่รับได้แค่ 20 ตัว ซึ่งรวมไปถึงโทเค็นยอดนิยมอย่าง Ethereum และ EOS อีกด้วย
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น