หากคุณคิดว่าตลาดสหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ลองดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับดัชนี CSI 300 ของจีนซึ่งเป็นดัชนีเทียบเท่ากับ S&P 500 ของสหรัฐ
หลังจากการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ตลาดหุ้นจีนพุ่งสูงสุดในรอบหลายปี ส่งผลให้หุ้นจีนพุ่งขึ้น 30% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่กำไรดังกล่าวก็หายไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับที่เห็น
จีนอัดฉีดเงิน 1.14 แสนล้านดอลลาร์เข้าตลาดหุ้น
ภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อ ฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และความต้องการของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง ได้สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
หลังจากที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มแย่ลงเป็นเวลาหลายเดือน ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนได้เปิดเผยนโยบายต่าง ๆ มากมายที่มุ่งเป้าไปที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น การอัดฉีดเงิน 1.14 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาดหุ้น การสนับสนุนการซื้อที่อยู่อาศัย และอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนนั้นเป็นเพียงการบรรเทาปัญหาชั่วคราวมากกว่าจะเป็นการรักษา แม้ว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยให้เศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวได้ แต่ผู้ลงทุนก็ยังบอกว่าเศรษฐกิจยังไม่ดี เนื่องจากผู้บริโภคที่กำลังลดลง รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นวิกฤติ
หุ้นจีนยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยนาย Erik Lueth นักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกจาก LGIM บอกกับสื่อ Morningstar ว่าเขาเห็น “ความเสี่ยงมากกว่าโอกาส” ในหุ้นจีน
แต่บางคนยังมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งล่าสุดของธนาคารกลางของจีนจะทำให้ตลาดหุ้นจีนมีโอกาสทำกำไรในอนาคต โดยนักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs คาดการณ์ว่าหุ้นจีนจะเพิ่มขึ้นถึง 18% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
Source: MorningBrew