เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา 18 รัฐในสหรัฐฯ ได้รวมตัวกันยื่นฟ้อง ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) และคณะกรรมาธิการ 5 คนเต็มคณะต่อศาลชั้นต้นในรัฐเคนทักกี โดยมีหัวหอกนำทัพคือ Russell Coleman อัยการสูงสุดของรัฐเคนทักกี
คดีนี้กล่าวหาว่า Gary Gensler หัวหน้าหน่วยงาน SEC และทีมงาน ใช้อำนาจเกินขอบเขต พร้อมดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรม จนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากรัฐเคนทักกีแล้ว ยังมีอัยการสูงสุดจากอีก 17 รัฐ ร่วมวงในคดีประวัติศาสตร์นี้ ได้แก่ เนแบรสกา, เทนเนสซี, เวสต์เวอร์จิเนีย, ไอโอวา, เท็กซัส, มิสซิสซิปปี, มอนทานา, อาร์คันซอ, โอไฮโอ, แคนซัส, มิสซูรี, อินเดียนา, ยูทาห์, หลุยเซียนา, เซาท์แคโรไลนา, โอกลาโฮมา และฟลอริดา
ทั้ง 18 รัฐ ได้รวมตัวฟ้อง SEC พร้อมกล่าวหาว่าใช้กฎหมายอย่างไม่ชอบธรรม ละเมิดหลักการพื้นฐานของการปกครองแบบสหพันธรัฐ โดยเฉพาะการตีความว่า คริปโตฯ ส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์ ยกเว้น Bitcoin และ Ethereum ซึ่งเป็นมุมมองของ Gary Gensler หัวหน้า SEC ที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการขยายขอบเขตอำนาจเกินไป
คดีนี้ชี้เป้าว่า การบังคับใช้กฎหมายหลักทรัพย์อย่างเข้มงวดต่อบริษัทคริปโตฯ ชั้นนำ เช่น Coinbase, Kraken, Ripple และ Consensys โดยไม่มีกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจน เป็นการสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุดของสหรัฐฯ และยังละเมิดสิทธิของรัฐในการควบคุมเศรษฐกิจของตนเอง อัยการสูงสุดจากรัฐเคนทักกีและอีก 17 รัฐ จึงออกโรงต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม
Bill Hagerty วุฒิสมาชิกจากรัฐเทนเนสซี กล่าวสนับสนุนการฟ้องร้องครั้งนี้ พร้อมชี้ว่าการกระทำของ SEC ภายใต้การนำของ Gensler เป็นการบีบบังคับอุตสาหกรรมคริปโตโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบวงกว้าง และยังเปิดเผยว่า มีหลายรัฐเริ่มลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องนวัตกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัล
ที่มา:foxbusiness