<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

7 กระเป๋าเงิน “คริปโต” ที่ดีที่สุดแห่งปี 2025 : ตัวไหนดียังไง เหมาะกับใครบ้าง มาดูกัน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หากคุณกำลังก้าวเข้าสู่โลกคริปโต สิ่งแรกที่คุณต้องมีเลยก็คือ “กระเป๋าเงินคริปโต” ซึ่งทำหน้าที่เป็นเสมือนตู้เซฟดิจิทัลของคุณ และช่วยปกป้องสินทรัพย์ให้ปลอดภัย พร้อมทั้งตอบโจทย์การใช้งานในด้านต่างๆ ท่ามกลางตัวเลือกที่มีอยู่มากมายในตลาดปี 2025 คุณจะเลือกกระเป๋าเงินที่เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างไร มาหาคำตอบไปพร้อมกัน

ในบทความนี้ ทางเราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 7 กระเป๋าคริปโตที่ดีที่สุด โดยอ้างอิงจากคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน และความหลากหลายของเหรียญที่รองรับ 

1.MetaMask : กระเป๋าเงินที่ดีที่สุดสำหรับเครือข่าย Ethereum 

MetaMask เป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน Web3 ในยุคปัจจุบัน และเหตุผลที่ทำให้มันเป็นที่นิยมก็คือ มันช่วยให้คุณจัดการสินทรัพย์ที่อยู่บนบล็อกเชน Ethereum และเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApps) ได้อย่างง่ายดาย ด้วยฐานผู้ใช้งานกว่า 30 ล้านคนต่อเดือน ทำให้ MetaMask เป็นที่ไว้วางใจในชุมชนคริปโตมาอย่างยาวนาน

MetaMask ใช้งานได้ทั้งในรูปแบบ Browser Extension และแอปพลิเคชันบนมือถือ ช่วยให้คุณเข้าถึงกระเป๋าเงินคริปโตได้ทุกที่ทุกเวลา แม้ว่ามันจะถูกออกแบบมาเพื่อ Ethereum เป็นหลัก แต่คุณสามารถปรับตั้งค่า RPC เพื่อใช้งานกับบล็อกเชนตัวอื่นๆ ได้ 

อีกจุดเด่นคือ MetaMask ช่วยให้การแลกเปลี่ยนโทเคน (Token Swap) เป็นเรื่องง่าย โดยรวบรวมอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดจากเว็บเทรดแบบกระจายศูนย์ (DEX) มาให้คุณ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาไล่เช็คด้วยตัวเอง 

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า “Snaps” ที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้างฟังก์ชันพิเศษเพื่อเพิ่มความสามารถการใช้งาน ช่วยให้คุณปรับแต่งฟีเจอร์การใช้งานของกระเป๋าเงินได้ตามความต้องการ

ข้อดีของ MetaMask

  • รองรับได้หลากหลายเครือข่าย รวมถึงเหรียญต่างๆ จำนวนมาก
  • ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวได้
  • เชื่อมต่อกับ dApps และแพลตฟอร์ม DeFi ได้อย่างง่ายดาย
  • มีฟีเจอร์ MetaMask Snaps สำหรับการปรับแต่งกระเป๋าเงิน
  • รองรับการใช้งานร่วมกับ Hardware Wallet เพื่อเพิ่มความปลอดภัยไปอีกขั้น

ข้อเสียของ MetaMask

  • การสนับสนุนหรือบริการลูกค้าผ่านบริษัทผู้พัฒนาโดยตรงยังมีข้อจำกัดอยู่
  • ค่าธรรมเนียมธุรกรรมสูงในช่วงที่เครือข่ายมีการใช้งานหนาแน่น
  • Interface ในแอปมีความซับซ้อน อาจไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

2. Phantom Wallet : กระเป๋าเงินที่ดีที่สุดสำหรับเครือข่าย Solana

Phantom Wallet คือกระเป๋าเงินคริปโตที่มีความปลอดภัย ใช้งานง่าย และออกแบบมาเพื่อระบบนิเวศของ Solana โดยเฉพาะ แต่ปัจจุบันได้ขยายการรองรับไปยัง Ethereum, Bitcoin และ Polygon แล้ว ตัวกระเป๋าถูกพัฒนาเพื่อให้การจัดการคริปโต, NFT และแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (DApps) เป็นเรื่องง่ายที่สุด

Phantom มีฟีเจอร์ “Scam Detection” หรือตรวจจับการหลอกลวง ที่ช่วยแจ้งเตือนการทำธุรกรรมที่อาจเป็นอันตรายก่อนที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างครอบคลุมจาก Kudelski Security ซึ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับด้านความปลอดภัยของกระเป๋าเงินคริปโตจากค่ายนี้

จุดเด่นและความพิเศษของ Phantom 

  • รองรับการจัดการ NFT ได้อย่างราบรื่น คุณสามารถบริหาร, ปักหมุด หรือลบ NFT ที่ไม่ต้องการได้โดยตรงจากกระเป๋า
  • รองรับการ Staking บน Solana ช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนประมาณ 6.88% ต่อปี เพียงแค่ถือโทเคน SOL ในกระเป๋า Phantom
  • สามารถ Swap โทเคนระหว่างเครือข่าย Solana, Ethereum และ Polygon 

ข้อดีของ Phantom Wallet

  • รองรับหลายเครือข่าย (Solana, Ethereum, Polygon และ Bitcoin)
  • เชื่อมต่อกับกระเป๋าฮาร์ดแวร์ Ledger ได้อย่างง่ายดาย
  • มี Interface ที่ใช้งานง่ายสำหรับการจัดการโทเคนและ NFT
  • ฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น Scam Detection
  • รองรับการ Staking บน Solana

ข้อเสียของ Phantom Wallet

  • การรองรับบล็อกเชนมีจำกัด ไม่สามารถ Config ค่าเองได้เหมือน Metamask
  • การแลกเปลี่ยนโทเคนมีค่าธรรมเนียม 0.85% และค่าธรรมเนียม Gas เพิ่มเติม

3. Coinbase Wallet : ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ Coinbase

Coinbase Wallet เป็นกระเป๋าเงินแบบ Self-Custody ที่ให้คุณควบคุมสินทรัพย์คริปโตของคุณได้อย่างเต็มที่ ไม่เหมือนกระเป๋าเงินที่ผูกกับกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) กระเป๋าเงินนี้จะเก็บคีย์ส่วนตัวของคุณไว้บนอุปกรณ์มือถือหรือ Browser Extension โดยตรง

จุดเด่นคือ รองรับคริปโตได้จำนวนหลายพันสกุล รวมถึงโทเคน ERC-20, NFT และอีกมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจโลก DeFi หรือเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApps)

คุณสามารถซื้อ, แลกเปลี่ยน, ซื้อขาย NFT และเข้าถึงแอปพลิเคชัน Web3 ได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชี Coinbase.com กระเป๋าใบนี้จะแยกตัวออกจากแพลตฟอร์ม Coinbase Exchange หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องผูกติดกับ CEX อีกต่อไป หากคุณต้องการโซลูชันแบบ Self-Custody

หากคุณกังวลเรื่องความปลอดภัย Coinbase Wallet ยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Hardware Wallet เช่น Ledger เพื่อทำธุรกรรมคริปโต และเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น

ข้อดีของ Coinbase Wallet

  • ควบคุมคีย์ส่วนตัวและสินทรัพย์คริปโตได้เต็มที่
  • รองรับคริปโตหลายพันสกุล รวมถึงโทเคน ERC-20 และ NFT
  • ใช้งานร่วมกับ Hardware Wallet ได้ เช่น Ledger
  • อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย และไม่จำเป็นต้องมีบัญชี Coinbase Exchange

ข้อเสียของ Coinbase Wallet

  • ไม่มีแอป Desktop รองรับเฉพาะมือถือและ Browser Extension เท่านั้น
  • ไม่ได้เปิดเผย Source code ทั้งหมด อาจทำให้เกิดข้อกังวลเรื่องความโปร่งใส

4.Trust Wallet : กระเป๋าเงินคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับมือถือ

Trust Wallet เป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินคริปโตบนมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 140 ล้านคนทั่วโลก ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2017 รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 10 ล้านรายการ บนบล็อกเชนกว่า 100 เครือข่าย ไม่ว่าคุณจะจัดการกับ Bitcoin, Ethereum หรือโทเคนบนเครือข่าย BNB Smart Chain กระเป๋าเงิน Trust Wallet ช่วยให้ทุกอย่างง่ายในแอปเดียว

จุดเด่นของ Trust Wallet คือ Interface ที่ใช้งานง่ายและมีเบราว์เซอร์แอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApp) ภายในตัว กล่าวคือคุณสามารถเข้าถึงพวก dApp และเข้าสู่โลกของ DeFi และ NFT ได้โดยตรง 

เนื่องจากเป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial คุณจะเป็นคนเดียวที่เข้าถึง Recovery Phrases ได้ Trust Wallet ยังเพิ่มชั้นความปลอดภัย เช่น การยืนยันตัวตนด้วย Biometrics และการสำรองข้อมูลบนคลาวด์แบบเข้ารหัส เพื่อรักษาสินทรัพย์ของคุณให้ปลอดภัย และไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนตัวใด ๆ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวอย่างมาก

ข้อดีของ Trust Wallet

  • จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลได้กว่า 10 ล้านรายการ บนบล็อกเชนกว่า 100 เครือข่าย
  • มีเบราว์เซอร์ในตัวสำหรับใช้งาน DeFi และ NFTs
  • ควบคุม Private Key และ Recovery Phrases ได้เต็มที่
  • ซื้อคริปโตด้วยสกุลเงินปกติได้โดยตรงในแอป
  • ใช้งานง่าย พร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น Biometrics

ข้อเสียของ Trust Wallet

  • ไม่มีเวอร์ชันสำหรับ Desktop
  • ตัวเลือกการสนับสนุนลูกค้าค่อนข้างจำกัด

5.Exodus : กระเป๋าเงินคริปโตบน Desktop ที่ดีที่สุด

Exodus เป็นกระเป๋าเงินคริปโตที่ขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ใช้งานทั่วๆ ไป รองรับการจัดการคริปโตมากกว่า 1,000 เหรียญ บนเครือข่ายกว่า 50 เครือข่าย เช่น Bitcoin และ Ethereum

Exodus สามารถใช้งานได้ทั้งบน Desktop (Windows, macOS, Linux) และ มือถือ (iOS, Android) ทำให้คุณเข้าถึงและจัดการสินทรัพย์ของคุณได้ทุกที่

จุดเด่นของ Exodus

หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Exodus คือ ช่วยให้คุณ Swap เหรียญคริปโตต่าง ๆ ได้โดยตรงในแอป โดยไม่ต้องลงทะเบียนหรือใช้บริการจากบุคคลที่สามเพิ่มเติม 

นอกจากนี้ Exodus ยังรองรับการซื้อคริปโตผ่านพันธมิตร เช่น Ramp Network และ MoonPay แต่ยังไม่สามารถแปลงระหว่างคริปโตและเงินเฟียตได้โดยตรง

ส่วน Private Key จะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของคุณเอง ไม่ได้อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์ เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน แม้ว่า Exodus จะยังไม่มีการรองรับการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) แต่สามารถเชื่อมต่อกับ Hardware Wallte ของ Trezor ได้ สำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยเพิ่มเติม

นอกจากนี้ Exodus ยังมีฟีเจอร์ Staking สำหรับเหรียญหลายประเภท ช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน และยังมีการสนับสนุนลูกค้า 24/7 พร้อมการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำ เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีสำหรับผู้ใช้งาน

ข้อดีของ Exodus

  • Interface ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  • มีฟีเจอร์ Staking และการแลกเปลี่ยนในตัว
  • รองรับการเชื่อมต่อกับ Trezor เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
  • ใช้งานได้บนหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Desktop และมือถือ
  • รองรับบัตรเครดิต/เดบิต, บัญชีธนาคาร, Apple Pay หรือ Google Pay

ข้อเสียของ Exodus

  • ไม่มีระบบยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA)
  • ไม่สามารถแปลงคริปโตเป็นเงินเฟียตได้โดยตรง

6.Ledger Nano X : กระเป๋าเงินคริปโตแบบ Hardware Wallet ที่ปลอดภัยที่สุด

Ledger Nano X เป็นกระเป๋า Hardware Wallet อันดับ 1 สำหรับการจัดการพอร์ตสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณ ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ทำให้คุณสามารถจัดการคริปโตได้โดยตรงจากสมาร์ทโฟน รองรับคริปโตมากกว่า 5,500 เหรียญ ตั้งแต่ Bitcoin, Ethereum ไปจนถึงเหรียญใหม่ ๆ อย่าง Solana ในอุปกรณ์เดียว

ตัวเครื่องของ Ledger Nano X จะมาพร้อมกับชิปความปลอดภัยมาตรฐาน CC EAL5+ ซึ่งเปรียบเสมือน “ตู้เซฟ” ที่มีระบบป้องกันแน่นหนาสำหรับ Private Key ของคุณ กระเป๋าเงินตัวนี้จะทำงานบนระบบปฏิบัติการ BOLOS ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะ ช่วยป้องกันการโจมตีที่เป็นอันตรายด้วยการแยกแอปพลิเคชันออกจากกัน

สำหรับหน้าจอจะเป็นขนาด 128×64 พิกเซล ใช้งานง่าย ช่วยให้คุณตรวจสอบธุรกรรมได้อย่างสะดวก พร้อมปุ่มควบคุมสองปุ่มที่เพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมีการใช้งานควบคู่กับแอป Ledger Live ได้อย่างราบรื่น ช่วยให้คุณ ซื้อ-ขาย, แลกเปลี่ยน และ Staking คริปโต ได้ในแอปเดียว ตัวเลือกการ Staking ยังช่วยให้คุณรับรางวัลจากเหรียญที่รองรับ เช่น Tezos และ Polkadot ได้โดยตรง

หากคุณทำตัวเครื่อง Nano X สูญหาย ไม่ต้องกังวล เพียงเก็บ Recovery Phrase ของคุณไว้ให้ปลอดภัย คุณสามารถกู้คืนสินทรัพย์ทั้งหมดบนอุปกรณ์ Ledger เครื่องใหม่ได้

ข้อดีของ Ledger Nano X

  • ชิปความปลอดภัยมาตรฐานสูงและระบบปฏิบัติการ BOLOS ป้องกันการโจมตี
  • รองรับการจัดการเหรียญและโทเคนจำนวนกว่า 5,500 รายการ
  • จัดการพอร์ตการลงทุนแบบไร้สายผ่านสมาร์ทโฟน (Bluetooth)
  • รับรางวัลจากการ Staking เหรียญที่รองรับได้โดยตรงในแอป

ข้อเสียของ Ledger Nano X

  • ราคาสูงกว่า Hardware Wallet รุ่นอื่น ๆ (เครื่องละ $149) อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานเริ่มต้น
  • การใช้งานผ่าน Bluetooth อาจมีความเสี่ยงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับกระเป๋าแบบ Air-Gapped

7.Trezor Safe 5 : กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ Bitcoin ที่ดีที่สุด

Trezor Safe 5 เป็นกระเป๋าเงิน Hardware Wallet ที่ปลอดภัยที่สุดอีกตัวหนึ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ถือ Bitcoin เพราะมีฟีเจอร์ที่รองรับโดยเฉพาะ จุดเด่นที่ทำให้กระเป๋าเงินนี้แตกต่างคือ ชิป Secure Element ระดับ EAL6+ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงที่สุด ช่วยล็อก Private Key ของคุณให้ปลอดภัยจากการโจมตีของแฮกเกอร์และภัยคุกคามทางกายภาพ

รองรับเหรียญและโทเคนมากกว่า 1,000 รายการ ทำให้สามารถจัดการพอร์ตคริปโตที่หลากหลายได้

ฟีเจอร์เด่นของ Trezor Safe 5

  • หน้าจอสีขนาด 1.54 นิ้ว ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้คุณนำทางและยืนยันธุรกรรมได้สะดวก
  • มี Haptic Feedback เพิ่มความรู้สึกขณะใช้งาน
  • ตัวอุปกรณ์เป็น Open-Source ทำให้โค้ดความปลอดภัยได้รับการตรวจสอบจากชุมชนคริปโตอยู่เสมอ

มีการใช้งานควบคู่กับแอป Trezor Suite ซึ่งเป็นแอปเสริม ช่วยให้การจัดการสินทรัพย์เป็นเรื่องง่าย คุณสามารถเชื่อมต่อกับ Desktop หรือมือถือ และยังรวมฟีเจอร์เข้ากับแอปอย่าง MetaMask เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานได้อีกด้วย

หากคุณทำตัวเครื่อง Trezor หาย ไม่ต้องกังวล ระบบกู้คืนแบบ Buit-in จะช่วยให้คุณกู้สินทรัพย์ได้ด้วย Backup Seed หรือ Shamir Backup

ข้อดีของ Trezor Safe 5

  • ชิป EAL6+ Secure Element มาพร้อม PIN และ Passphrase เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
  • มีเวอร์ชันสำหรับผู้ถือ Bitcoin เท่านั้น (Bitcoin-Only)
  • หน้าจอสีที่ชัดเจนและใช้งานง่าย
  • มี Open-Source เพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัยด้วยการตรวจสอบจากชุมชน

ข้อเสียของ Trezor Safe 5

  • มีราคาสูงอยู่ที่ ($169) เมื่อเทียบกับเจ้าอื่น
  • ไม่มีแอปมือถือสำหรับ iOS โดยตรง ต้องใช้แอปของบุคคลที่สามในบางฟังก์ชัน

สรุป

การเลือกกระเป๋าเงินคริปโตที่ดีที่สุดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการก้าวเข้าสู่โลกคริปโต ไม่ว่าคุณจะชอบกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่ายอย่าง Trust Wallet และ Coinbase Wallet หรือกำลังมองหาความปลอดภัยที่เหนือกว่าจากกระเป๋าเงิน Hardware Wallet อย่าง Ledger Nano X และ Trezor Safe 5 กระเป๋าคริปโตแต่ละเจ้ามีจุดเด่นเฉพาะตัว ที่ไม่เหมือนกัน ตั้งแต่ความสะดวกสบายไปจนถึงมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด เพราะฉะนั้นการเลือกที่ดีที่สุดจะขึ้นอยู่กับความต้องการและแนวทางการใช้งานของคุณเอง

ที่มา:nftevening