นักเทรดคริปโตจำนวนมากได้ออกมาแสดงความสับสนงุนงงเป็นอย่างมากต่อสภาวะตลาดคริปโตในปัจจุบันที่ไม่เป็นไปตามแพทเทิร์นเดิม ๆ อีกต่อไป โดยรวมระบุว่า “ตลาดได้สูญเสียตรรกะไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้นักลงทุนทุกคนตกอยู่ในสภาวะมึนงง แม้ว่าอุตสาหกรรมจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ตาม”
Sykodelic นักเทรดคริปโตรายหนึ่งได้แสดงความไม่พอใจว่า ทำไมตลาดถึงไม่คึกคักและยังคงถอยกลับเข้าสู่ขาลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่ทรัมป์มีการเคลื่อนไหวมากมายที่เกี่ยวข้องกับวงการคริปโต ส่งผลให้ในตอนนี้ตลาดคริปโตสูญเสีย “จังหวะ” และ “เหตุผล” ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องน่างุนงงสำหรับนักลงทุนทุกราย
The Bitcoin Therapist นักเทรดชื่อดังอีกรายให้ความเห็นว่า เกิดบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติขึ้นกับราคาของ Bitcoin ในปัจจุบัน โดยราคาในขณะนี้เป็นราคาที่ประเมินไว้ต่ำเกินจริงกว่า $50,000-$100,000 และมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้
ความงุนงงดังกล่าวเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะนักวิเคราะห์ฝีมือดีหลายคนเคยทำนายว่า ดัชนี Bitcoin Dominance จะพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในช่วงต้นปี 2025 เพื่อต้อนรับข่าวดีจากคำสัญญาต่าง ๆ ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น
ปัจจุบันดัชนี Bitcoin Dominance ล่าสุดยังคงอยู่ที่ 61.47% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง Benjamin Cowen คาดการณ์ไว้ แต่ขณะเดียวกัน ราคาของ Bitcoin ก็ยังไม่สามารถกลับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมได้นับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ทรัมป์เข้าพิธีสาบานตน
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้นักลงทุนต้องตั้งคำถามว่า Alt Season จะมาถึงจริงหรือไม่? หรือแท้จริงแล้วจะเป็นความหวังที่ไม่มีวันมาเยือน
ขณะที่รายงาน ราคา Bitcoin มีการซื้อขายที่ $97,650 ลดลง 1.49% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยดัชนี The Crypto Fear & Greed Index ทำคะแนนอยู่ที่ 54 ในระดับ “เป็นกลาง” โดยสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเป็นผลมาจากความกังวลในเรื่องของสงครามการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้น หลังทรัมป์สั่งขึ้นภาษีแคนาดา เม็กซิโก และจีน ซึ่งคำสั่งดังกล่าวได้ส่งผลทำให้เกิดการล้างพอร์ตกว่า $2.24 พันล้านในวันเดียว ซึ่งสูงมากกว่าวิกฤตการณ์ล่มสลายของ FTX หรือ COVID-19
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ Michaël van de Poppe กลับไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องผิดปกติ โดยตัวเขามองว่ารัฐบาลล่าสุดเป็นรัฐบาลที่หมายมั่นที่จะสร้าง “ยุคทองของคริปโต” และมันกำลังเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
ที่มา : Cointelegraph