รายงานล่าสุดพบว่า Ethereum Foundation ได้ทำการโอนเหรียญ Ethereum (ETH) ส่วนหนึ่งเข้าสู่แพลตฟอร์มการให้กู้ยืมแบบกระจายศูนย์ ( DeFi lending protocols) โดยมุ่งเป้าไปที่ Aave และ Spark
โดยการโอนครั้งนี้มีการโอน ETH จำนวน 30,800 เหรียญ (มูลค่า 81.6 ล้านดอลลาร์) ไปยัง Aave ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มให้กู้ยืม DeFi ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งแบ่งเป็น 20,800 ETH (มูลค่า 55 ล้านดอลลาร์) ฝากไว้ใน Aave Core Market และ 10,000 ETH (มูลค่า 26 ล้านดอลลาร์) ฝากไว้ใน Aave Prime
นอกจากนี้ Ethereum Foundation ยังได้จัดสรร 10,000 ETH (มูลค่า 26 ล้านดอลลาร์) ไปยัง Spark ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มภายในระบบนิเวศของ MakerDAO ที่ให้บริการสินเชื่อแบบเดียวกับ Aave และ 4,200 ETH (มูลค่า 11.2 ล้านดอลลาร์) ไปยัง Compound ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มกู้ยืม DeFi
การนำ ETH ไปฝากในโปรโตคอลเหล่านี้ ช่วยให้ Ethereum Foundation สามารถ สร้างผลตอบแทนจากดอกเบี้ย โดยไม่ต้องขายสินทรัพย์ ซึ่งคาดว่าการลงทุนครั้งนี้อาจสร้างรายได้จากดอกเบี้ยราว 1.5 ล้านดอลลาร์ต่อปี ตามอัตราผลตอบแทน 1.5%
ซึ่งก่อนหน้านี้ Ethereum Foundation ได้โอน 50,000 ETH ไปยังกระเป๋าเงินแบบ multi-signature เพื่อสนับสนุนโปรโตคอล DeFi หลังจากเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารคลังสินทรัพย์ขององค์กร
และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มูลนิธิ Ethereum มักจะขาย ETH เพื่อนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน อย่างไรก็ตามแนวทางนี้เคยถูกวิจารณ์จากชุมชนอย่างหนัก รวมถึงมีเสียงเรียกร้องให้เปลี่ยนผู้นำองค์กร เช่น การเสนอให้ถอดถอน Aya Miyaguchi ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการบริหาร
ที่มา: TheBlock