วันนี้ (17 ก.พ.) ตลาดคริปโตในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ยังคงซบเซา โดย Bitcoin เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่าง $94,000 – $99,000 ซึ่งคิดเป็นการขึ้นลงราว 5% เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาสูงกว่าคาดการณ์ กดดันให้ ตลาดสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโต ยังไม่มีแรงซื้อเข้ามา
ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะออกมาที่ 2.9% แต่เมื่อประกาศจริงกลับอยู่ที่ 3.0% ยิ่งไปกว่านั้น Core CPI ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ก็ดันออกมาสูงถึง 3.3% จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.1% ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มเชื่อว่า Fed อาจจำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมต่อไปในที่ประชุมวันที่ 18-19 มีนาคม 2025 แทนที่จะปรับลดดอกเบี้ยตามที่หลายคนคาดหวัง
แม้ว่า Bitcoin จะดูซบเซา แต่บางเหรียญกลับสวนกระแสและสามารถทำกำไรได้ดี โดยเฉพาะ Cake ที่ราคาพุ่งขึ้นกว่า 60% ภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสขาขึ้นของเหรียญ BNB ที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น
นอกจากนี้ การที่ Changpeng Zhao (CZ) อดีตซีอีโอของ Binance เข้ามามีบทบาทในตลาดเหรียญมีม ก็ยิ่งทำให้กระแสเหรียญบน BNB Smart Chain (BSC) คึกคักขึ้น โดยเฉพาะเหรียญคริปโตตัวใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Broccoli ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสุนัขของ CZ
ไม่เพียงแค่ Cake เท่านั้นที่ทำผลงานได้ดี เหรียญในกลุ่ม Top 10 หลายตัวก็สามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวก เช่น XRP เพิ่มขึ้น 16%, BNB เพิ่มขึ้น 12%, DOGE บวก 9%, และ ADA ขึ้นสูงสุดกว่า 18%
อย่างไรก็ตาม ความร้อนแรงของตลาดเหรียญมีมดูเหมือนจะถูกเบรกกะทันหัน หลังจากเหรียญมีมตัวหนึ่ง (LIBRA) ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา เกิดเหตุการณ์ Rug Pull อย่างรุนแรง มูลค่าตลาดจากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ดิ่งลง 94% ในเวลาเพียงพริบตา สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน และทำให้ตลาดเริ่มกลับเข้าสู่โหมดระมัดระวังมากขึ้น
ด้านดัชนี Fear & Greed Index ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอารมณ์ของนักลงทุน ยังคงอยู่ในระดับกลางๆ ที่ 51 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดยังอยู่ภาวะ “ปกติ” ไม่ได้อยู่ในโซนกลัวหรือโลภ
ในขณะที่รายงาน ราคาของ Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ $96,112 ลดลง 1.43% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
