ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin , Ethereum รวมถึง S&P 500, Nasdaq, Dow Jones ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างปรับฐานราคาเข้าสู่แนวโน้มอย่างหน้าตกใจ หลังจากที่นักลงทุนเริ่มเกิดความกังวลทั้งในเรื่องของสงครามการค้า และภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession)
นักเศรษฐศาสตร์จาก JPMorgan ได้เพิ่มระดับความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ Recession ขึ้นในปีนี้เป็น 40% จากเดิมที่ 30% ในช่วงต้นปี 2025 เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์จาก Golman Sachs ที่เห็นด้วยและ ยกระดับความเป็นไปได้ที่จะเกิด Recession ใน 12 เดือนขึ้นเป็น 20% จากเดิม 15% และอาจสูงกว่านี้หากรัฐบาลของทรัมป์ยังคงยึดติดกับนโยบายเดิม
ด้าน นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ยังทำนายอีกด้วยว่า GDP ของสหรัฐฯ จะโตลดลงจาก 1.5% ในปีนี้และจะเหลือเพียง 1.2% ในปี 2026 ส่วนตัวทรัมป์เองเคยได้ให้สัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน
นับตั้งแต่ที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนจนถึงปัจจุบัน ตลาดคริปโตได้ร่นถอยกลับเข้ามาจนแทบจะอยู่ในจุดเดิม แม้ว่าจะมีการประกาศข่าวดีมากมาย โดยปัจจุบันนักลงทุนจำนวนมากต่างนำเงินออกจากตลาดคริปโต ซึ่งในขณะนี้มีเงินไหลออกจากตลาดคริปโตแล้วมากถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์ หรือลดลง 7.5% นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ย.
อย่างไรก็ตาม Kevin Hassett ซึ่งเป็นหัวหน้าสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ (National Economic Council) กล่าวว่า แม้ในไตรมาสนี้ตัวเลขต่าง ๆ อาจจะออกมาไม่ดีนัก แต่เขาเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ที่มา : Cointelegraph

