หลังจากร่วงลงต่ำกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ราคา XRP ก็กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยปัจจุบันซื้อขายอยู่ในช่วง 2.30-2.40 ดอลลาร์
นักลงทุนและนักวิเคราะห์เริ่มจับตามองแนวโน้มราคาที่อาจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อคดีระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กับ Ripple ใกล้จะได้ข้อสรุป ซึ่งอาจสร้างแรงกระเพื่อมให้ตลาด
XRP กำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญของตลาด
นักวิเคราะห์ที่รู้จักกันในชื่อ Ali Martinez ชี้ให้เห็นว่า XRP อาจมีโอกาสแตะระดับตัวเลขสองหลัก โดยอ้างอิงจากรูปแบบสามเหลี่ยมสมมาตรที่พัฒนามาตลอด 7 ปี นับตั้งแต่ช่วงที่ราคาทะยานแตะระดับสูงสุดที่ 3.80 ดอลลาร์ในปี 2018
แม้ว่าราคาจะร่วงลงกว่า 25% จากระดับสูงสุดที่ 3.40 ดอลลาร์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ XRP ยังคงเคลื่อนตัวในกรอบแนวโน้มเชิงบวก ซึ่งคล้ายกับรูปแบบของตลาดก่อนการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ในอดีต นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวของ XRP หลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ทำให้ราคาพุ่งขึ้นกว่า 280% ถือเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งสำคัญที่สุดในรอบ 7 ปี
Martinez เชื่อว่าการทะลุแนวต้านสำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว อาจเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นระยะยาว แม้ว่าราคาจะมีการย่อตัวลงบ้างในช่วงเดือนมีนาคม แต่ตราบใดที่ XRP ยังคงอยู่เหนือแนวรับหลัก การพุ่งขึ้นเหนือ 15 ดอลลาร์ยังคงมีความเป็นไปได้
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตา
ปัจจุบัน XRP กำลังทดสอบแนวรับของสามเหลี่ยมบนกราฟ หากสามารถยืนเหนือระดับ 1 ดอลลาร์ได้ Martinez มองว่าการเคลื่อนตัวไปสู่ระดับ 15 ดอลลาร์ยังคงเป็นไปได้ โดยอาศัยแรงหนุนจากสภาวะตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของ XRP ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์ของคดีระหว่าง Ripple กับ SEC ซึ่งอาจส่งผลโดยตรงต่อการนำ XRP กลับเข้าสู่แพลตฟอร์มซื้อขายในสหรัฐฯ รวมถึงสภาวะตลาดคริปโตโดยรวมที่ยังคงมีความผันผวนสูง
แนวโน้มระยะสั้นและระยะยาว
นักลงทุนกำลังจับตาดูการเคลื่อนไหวของ XRP อย่างใกล้ชิด โดยปัจจุบันราคาซื้อขายอยู่ที่ 2.37 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หากสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 3.40 ดอลลาร์ได้ ก็อาจเปิดทางไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้น
การคาดการณ์ว่า XRP อาจแตะ 15 ดอลลาร์อาจดูเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่หากแนวโน้มขาขึ้นยังคงอยู่ ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนที่เหมาะสม การทำจุดสูงสุดใหม่ก็อาจไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง
Source: Newsbtc