แคธี วูด (Cathie Wood) นักลงทุนชื่อดังและซีอีโอของ Ark Investment Management ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกระแสเหรียญมีม โดยมองว่า เหรียญประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะ “ไร้ค่า” ในที่สุด ท่ามกลางกระแสคริปโตที่มีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 2.6 ล้านล้านดอลลาร์
Cathie Wood อธิบายว่า การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีบล็อกเชนและ AI ทำให้มีเหรียญมีมเกิดขึ้นเป็นจำนวนหลายล้านเหรียญ แต่เหรียญส่วนใหญ่จะไม่มีมูลค่ามากนัก
เธอย้ำว่า เธอไม่ได้ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้เลย เพราะมองว่า ไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับที่ชัดเจน
แม้ว่า เหรียญมีมจะได้รับแรงบันดาลใจจากมุกตลก เหตุการณ์ปัจจุบัน หรือกระแสวัฒนธรรม แต่ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ก็ได้ออกมายืนยัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า เหรียญมีมไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ ดังนั้น เหรียญมีมจะยังคงอยู่นอกเหนือการกำกับดูแล
Cathie Wood ได้ฝากคำเตือน ไปยังนักลงทุนว่า “ใครที่กำลังซื้อเหรียญมีมอยู่ ขอให้รู้ไว้เลยว่า คุณต้องรับความเสี่ยงเอง ถ้าคุณเสียเงินไป ก็ไม่มีใครมาช่วยคุณได้”
ก่อนหน้านี้ เหรียญมีมเคยถูกพูดถึงอย่างมาก เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดตัวเหรียญมีมของตัวเอง ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี สหรัฐฯ ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นมหาศาลในเวลาอันสั้น แต่สุดท้ายเหรียญมีมดังกล่าว ก็ราคาดิ่งลงอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม Cathie Wood มองว่า เหรียญมีมบางตัวอาจกลายเป็น “ของสะสมดิจิทัล” และ อาจมีบางเหรียญที่สามารถยืนหยัดผ่านกาลเวลาได้ ซึ่งเหรียญของทรัมป์ก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น
แม้ Cathie Wood จะไม่เชื่อในเหรียญมีม แต่กลับมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับบิตคอยน์ อีเธอเรียม และโซลานา โดยกล่าวว่า “การใช้งานของบิตคอยน์ ( Bitcoin) อีเธอเรียม ( Ethereum) และโซลานา (Solana) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในอนาคต”
Cathie Wood ยังคงยึดมั่นในมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับอนาคตของบิตคอยน์ โดยก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ว่า บิตคอยน์อาจมีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 แม้ว่า ตอนนี้ราคาบิตคอยน์จะยังคงซื้อขายอยู่ที่ราว 82,000 ดอลลาร์ ซึ่งราคาร่วงลงประมาณ 13% นับตั้งแต่ต้นปี 2025 แต่ Cathie Wood ยังคงเชื่อมั่นว่า บิตคอยน์จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว
ที่มา : The straitstimes