จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย University of Texas รายงานว่าเหรียญ USDT นั้นเคยถูกใช้เพื่อสนับสนุนราคาของ Bitcoin เมื่อช่วงขาลง
นาย John Griffin และ Amin Sams จากมหาวิทยาลัย University of Texas ที่สาขา Finance ได้เผยแพร่วิจัยในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อมโยงราคาที่เพิ่มขึ้นของ Bitcoin ในปี 2017
วิจัยระบุว่า นักวิจัยใช้ Algorithm ในการวิเคราะห์ข้อมูลของ Blockchain และพบว่าการซื้อ Tether นั้นเกิดขึ้นในช่วงที่ราคาของ Bitcoin ร่วงลงพอดี และส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในราคาของ Bitcoin
ด้วยเหตุนั้นทำให้พวกเขาเห็นความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างการสร้างโทเคนของ Tether และราคา Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นในช่วงตลาดหมี โดยวิจัยเคลมว่า:
“โดยการระบุ Blockchain ของ Bitcoin และ Tether เราจะเห็นได้ชัดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเว็บเทรด Bitfinex นั้นใช้ Tether ในการซื้อ Bitcoin เมื่อราคาของมันร่วงลง และรอรับซื้อนั้น ซึ่งก็ได้ผลซะด้วย เนื่องจากราคาของ Bitcoin เพิ่มขึ้นในเวลาต่อมา ผลกระทบแบบนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการสร้าง Tether เพิ่มขึ้นเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยสองคนพบว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ Tether ในจำนวนที่มากเท่าไรนักในการที่จะกันไม่ให้ราคาของ Bitcoin ลดลง
“แค่การแลกเปลี่ยนระหว่าง Tether และ Bitcoin เพียงน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ในภาพรวม ก็สามารถส่งผลต่อราคาอย่างเห็นได้ชัดได้”
อ้างอิงจากวิจัย Algorithm ที่ทั้งสองคนได้พัฒนาขึ้นมานั้นจะแบ่งแยกกลุ่มของ Bitcoin Wallets ซึ่งทำให้นักวิจัยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า Tether นั้นถูกกระจายไปที่ไหน และมีผลกระทบต่อราคาของ Bitcoin อย่างไร โดยวิจัยอธิบายให้เห็นภาพว่า:
“Tether ถูกสร้างขึ้น จากนั้นย้ายไปยัง Bitfinex และค่อย ๆ ย้ายไปสู่เว็บเทรดคริปโตต่าง ๆ ซึ่งหลัก ๆ ก็คือ Poloniex และ Bittrex”
และยังอธิบายต่อว่า:
“โดยปกติแล้ว โทเคนเหล่านั้นไม่ค่อยได้รับการแลกคืนเป็นเงินปกติโดยผู้ใช้งาน เว็บเทรดหลัก ๆ ที่รับแลก Tether กลับเป็นเงินดอลลาร์ เช่น Kraken นั้น มีส่วนเกี่ยวข้องเพียงนิดเดียวเท่านั้น”
วิจัยดังกล่าวได้โฟกัสหลัก ๆ ไปยังการสร้างโทเคนที่จะสามารถอธิบายความเชื่อมโยง แต่นักวิจัยระบุด้วยว่า ความต้องการของ Bitcoin นั้นสามารถสร้างความต้องการสำหรับ Tether ได้เช่นกัน โดยเฉพาะนักลงทุนที่ไม่สามารถย้ายเงินจำนวนมากเข้ามาสู้ Cryptocurrency โดยตรงได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น