<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Cryptomom ซัดยับ ! นักลงทุนเหรียญมีม เวลาเจ็บอย่าโวย ย้ำไม่อยู่ในขอบเขตการดูแลของ SEC

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

คณะกรรมการ Hester Peirce ผู้ได้รับฉายาว่า คุณแม่คริปโต (Cryptomom) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี Donald Trump ให้ตำแหน่งหัวหน้าทีมหน่วยงานพิเศษด้านคริปโตของ SEC ได้ออกมาเตือนนักลงทุนว่า หากตัดสินใจที่จะลงทุนในเหรียญมีม ก็อย่าคาดหวังว่า SEC จะเข้ามาช่วยเหลือในกรณีที่ขาดทุน เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้ว เหรียญประเภทนี้ ไม่ได้อยู่ในขอบเขตอำนาจของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ตั้งแต่แรก

Hester Peirce กล่าวว่า นักลงทุนไม่ควรคาดหวังว่าจะได้รับความคุ้มครองจาก SEC หากลงทุนในเหรียญมีม เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว เหรียญมีมส่วนใหญ่ไม่เข้าเกณฑ์ที่จะถูกจัดว่าเป็น “หลักทรัพย์” ตามกฎหมายของสหรัฐฯ และ SEC เองก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรในตลาดนี้เลยด้วยซ้ำ แม้ว่าในทางทฤษฎีจะสามารถจัดแพ็คเกจให้บางเหรียญเข้าเกณฑ์ธุรกรรมหลักทรัพย์ได้ แต่เหรียญมีมส่วนใหญ่ก็ยังอยู่นอกเหนือการกำกับดูแลอยู่ดี

Hester Peirce ย้ำว่า เหรียญมีมเหล่านี้มักไม่มีมูลค่าแท้จริง ไม่ต่างอะไรกับ NFT ที่เคยพุ่งแรงในช่วงแรก แล้วราคาก็ดิ่งลงในภายหลัง

โดยเฉพาะในกรณีเหรียญมีม Trump ที่มูลค่าตลาดเคยพุ่งแตะ 30,000 ล้านดอลลาร์ก่อนพิธีสาบานตนของทรัมป์ แต่หลังจากนั้นราคาก็ร่วงลงอย่างแรง ทำให้นักลงทุนรายย่อยขาดทุนไปราว ๆ 2 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กลุ่มคนใกล้ชิดกับทรัมป์ ซึ่งถือครองเหรียญกว่า 80% กลับทำเงินจากค่าธรรมเนียม และการขายทำกำไรได้รวมกันมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ภายในเดือนมกราคม

ส่วนในกรณีเหรียญมีมของ Melania Trump ก็ไม่ต่างกัน มีรายงานว่า ผู้เกี่ยวข้องบางรายได้ซื้อเหรียญมีมนี้ล่วงหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่เหรียญจะเปิดตัวสู่สาธารณะ และกวาดกำไรไปได้อย่างงดงาม 

สถานการณ์นี้จึงทำให้เกิดคำถามถึงผลประโยชน์ที่ทับซ้อน เพราะดูเหมือนว่าผู้นำประเทศอาจกำลังได้ประโยชน์จากนโยบายของตัวเอง

ล่าสุด ทรัมป์ก็ยังได้จัดงานเลี้ยงหรูให้กับผู้ถือเหรียญมีม Trump สูงสุด 220 อันดับแรกซึ่งยิ่งจุดกระแสดราม่าหนักเข้าไปอีก โดยมีบางฝ่ายมองว่า นี่อาจเป็นช่องทางให้บริษัทต่างชาติเข้าถึงตัวทรัมป์ได้

เรียกได้ว่า Hester Peirce แสดงท่าทีว่า ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเหรียญมีม อย่างชัดเจน โดยปล่อยให้นักลงทุน “รับผิดชอบตัวเอง” อย่างเต็มที่ ท่ามกลางตลาดที่เต็มไปด้วยการหลอกลวง และการฉ้อโกงมากขึ้นเรื่อย ๆ 

ที่มา : cryptoslate