ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเปิดเดือนกรกฎาคมมาพร้อมกับข่าวดีที่น่าจับตา เมื่อโปรเจกต์ Bitcoin Hyper (HYPER) ซึ่งเป็นโซลูชัน Layer 2 บนเครือข่าย Bitcoin ตัวแรกที่ประสบความสำเร็จและสามารถระดมทุนได้ทะลุ 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปเป็นที่เรียบร้อย
โปรเจกต์ Bitcoin Hyper มีเป้าหมายสำคัญที่จะยกระดับเครือข่าย Bitcoin จากเดิมที่เป็นเพียง “เงินแห่งโลกอินเทอร์เน็ต” ให้กลายเป็น “คอมพิวเตอร์ของโลก” อย่างแท้จริง โดยความโดดเด่นอยู่ที่การนำ Solana Virtual Machine (SVM) มาใช้แทน Ethereum Virtual Machine (EVM) เพื่อให้ได้ความเร็วและขีดความสามารถในการขยายขนาดที่เหนือชั้น ซึ่งนักลงทุนในช่วงแรกต่างเล็งเห็นถึงศักยภาพนี้ จึงทำให้เงินทุนหลั่งไหลเข้าสู่การระดมทุนอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ Bitcoin Hyper ยังมอบผลตอบแทนจากการ Staking ให้กับผู้ถือครองในอัตราผลตอบแทนต่อปี (APY) สูงถึง 442% ซึ่งอัตรานี้จะมีการปรับเปลี่ยนตามสัดส่วนการเข้าร่วมใน Pool ด้วยอัตราผลตอบแทนเช่นนี้ ผู้สนับสนุนในช่วงเริ่มต้นจึงมีโอกาสที่จะสะสมโทเค็นที่จะขับเคลื่อนวิวัฒนาการขั้นต่อไปของ Bitcoin
ปัจจุบันโทเค็น HYPER มีราคาอยู่ที่ 0.012125 ดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาจะเพิ่มขึ้นหลังจากรอบการระดมทุนเฟสปัจจุบันสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ด้วยผลตอบแทนจากการ Staking ของ Bitcoin Hyper ที่สูงถึง 442% ต่อปี หากมีการแจกจ่ายรางวัลอย่างสม่ำเสมอ นักลงทุนอาจได้รับผลตอบแทนรายเดือนประมาณ 36.8%

ยกตัวอย่างเช่น หากนำโทเค็น HYPER มูลค่า 1,000 ดอลลาร์ไป Staking ด้วยอัตราผลตอบแทนดังกล่าว อาจทำให้เงินลงทุนเติบโตเป็น 1,368 ดอลลาร์ได้ภายในหนึ่งเดือน อย่างไรก็ตาม เมื่อมีผู้เข้าร่วม Staking Pool มากขึ้น ผลตอบแทนก็จะถูกปรับเปลี่ยนแบบไดนามิกเพื่อสะท้อนถึงฐานการ Staking ที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งหมายความว่า ผู้เข้าร่วมในช่วงแรกจะมีโอกาสที่ดีที่สุดในการรับผลตอบแทนสูงสุด ก่อนที่รางวัลจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
ทีมงานเบื้องหลัง Bitcoin Hyper ได้ให้เหตุผลในการเสนอผลตอบแทนที่สูงเช่นนี้ว่า เป็นการส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นในระยะยาว พวกเขาเชื่อว่าความต้องการโทเค็น การนำไปใช้ และรายได้ของโปรโตคอลจะเติบโตมากพอที่จะรองรับผลตอบแทนที่ยั่งยืนเมื่อเครือข่ายขยายตัว
นอกจากนี้ ผลตอบแทนที่สูงยังเป็นการให้รางวัลแก่ผู้ที่เข้าร่วมในช่วงแรกสำหรับความอดทน โดยกระตุ้นให้ผู้ถือครองทำการ Staking แทนที่จะขายทันทีที่โทเค็นเข้าจดทะเบียนในตลาดแลกเปลี่ยน ซึ่งช่วยสร้างระบบนิเวศที่ดีขึ้น ลดความผันผวน และส่งเสริมการเติบโตที่เป็นธรรมชาติและขับเคลื่อนโดยชุมชน
โทเค็น HYPER ถือเป็นกระดูกสันหลังของวิสัยทัศน์ Layer 2 ของ Bitcoin Hyper โดยมีหน้าที่หลักสามประการ ได้แก่ เป็นรางวัลสำหรับผู้ที่นำโทเค็นมา Staking เพื่อสนับสนุนเครือข่าย, ช่วยรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย Layer 2 และเป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมทั้งหมดภายในเครื่องมือและแอปพลิเคชันกระจายอำนาจในระบบนิเวศนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่าย Bitcoin โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชันบน Bitcoin รุ่นใหม่
Bitcoin Hyper เลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไป โดยใช้เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนหนึ่งในบล็อกเชนที่เร็วที่สุดในโลก นั่นคือ SVM ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และการประมวลผลที่แทบจะเกิดขึ้นในทันที
ขณะเดียวกัน ก็ยังคงได้รับประโยชน์จากความปลอดภัยและการกระจายอำนาจระดับโลกของ Bitcoin กล่าวโดยสรุปคือ ผู้ใช้งานจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งสองโลก นั่นคือความเร็วและประสิทธิภาพด้านต้นทุนเทียบเท่า Solana ผนวกกับความปลอดภัยที่เหนือชั้นของ Bitcoin

ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วย Non-Custodial Bridge หรือสะพานเชื่อมต่อแบบกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์ที่จะเชื่อมเครือข่าย Bitcoin เข้ากับเครือข่าย Layer 2 อย่าง Bitcoin Hyper ผู้ใช้งานสามารถฝาก BTC เข้าไปใน Bridge ซึ่งการทำธุรกรรมจะได้รับการยืนยันโดยตรงกับข้อมูลบล็อกของ Bitcoin
เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว Bitcoin Hyper จะสร้างโทเค็น BTC ในรูปแบบ Wrapped ซึ่งสามารถนำไปใช้ในระบบนิเวศความเร็วสูงสำหรับการซื้อขาย, Staking, Farming และแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้อย่างอิสระ และเมื่อผู้ใช้งานต้องการถอนออกก็เพียงแค่ Burn โทเค็น Wrapped และสะพานจะส่ง BTC ดั้งเดิมกลับไปยังเครือข่ายหลักของ Bitcoin
Layer 2 ของ Bitcoin Hyper อาจจุดประกายการประเมินมูลค่า BTC ที่สูงขึ้น
โดยพื้นฐานแล้ว สิ่งที่ Bitcoin Hyper นำเสนอคือ การขยายขอบเขตการใช้งานของ Bitcoin ให้เหนือกว่าการเป็นเพียงแหล่งเก็บมูลค่า ปัจจุบัน Bitcoin มีราคาอยู่ในระดับหกหลักได้อย่างสบายๆ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการยอมรับจากสถาบันขนาดใหญ่ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แต่ลองจินตนาการดูว่า จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Bitcoin ไม่เพียงแค่ถูกถือครอง แต่ยังถูกนำไปใช้เพื่อขับเคลื่อนแอปพลิเคชันกระจายอำนาจ (dApps) ใหม่ๆ จำนวนมาก BTC ทุกเหรียญที่ถูกล็อกไว้ใน Bridge ของ Bitcoin Hyper จะถูกนำออกจากระบบหมุนเวียนชั่วคราว การกระทำนี้ จะช่วยลดอุปทานที่มีอยู่ในตลาดโดยรวม ซึ่งอาจส่งผลให้การประเมินมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ในอดีตโซลูชัน Bitcoin Layer 2 ยังมีข้อจำกัดในการออกแบบอยู่ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขายังไม่สามารถมอบประสบการณ์ที่มีจำนวนประสิทธิภาพสูงได้อย่างแท้จริง แต่ Bitcoin Hyper กลับให้คำมั่นว่าจะมอบประสบการณ์ Layer 2 ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมทั้งยังคงรักษาความปลอดภัยที่เหนือชั้นของ Bitcoin ไว้ได้ และเนื่องจาก BTC เองเป็นสินทรัพย์ที่ค้ำประกัน HYPER โทเค็นทั้งสองจึงอาจเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันเมื่อเวลาผ่านไป ขึ้นอยู่กับว่าระบบนิเวศ Layer 2 ได้รับการยอมรับมากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้ เนื่องด้วยผู้ใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสูงสุดควบคู่ไปกับการทำธุรกรรมที่มีประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายต่ำ Bitcoin Hyper จึงเป็นก้าวที่สำคัญในการนำยูทิลิตี้ที่ได้รับการอัปเกรดมาสู่ระบบนิเวศของ Bitcoin
การนำเสนอยูทีลีตี้ที่เพิ่มขึ้นนี้ อาจอธิบายได้ว่าทำไม Borch Crypto ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลด้านคริปโต และมีผู้ติดตามบน YouTube กว่า 90,000 คน จึงเรียก Bitcoin Hyper ว่าเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่น่าสนใจที่สุดของปี 2025
สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Bitcoin Hyper
สำหรับผู้ที่มองหาโอกาสในการสนับสนุนโปรเจกต์ Layer 2 ในช่วงเริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรเจกต์ที่มีเป้าหมายในการขยายขนาดบล็อกเชนที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกคริปโตด้วยโมเดลที่ไม่เคยมีมาก่อนนั้นถือเป็นโอกาสที่หาได้ยาก
โดยทั่วไปแล้ว ราคาช่วงระดมทุนถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ต่ำที่สุด และหากโปรเจกต์ทำตามคำมั่นสัญญาได้ โทเค็นของโปรเจกต์นั้นก็อาจจะมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมเมื่อเข้าจดทะเบียนในกระดานแลกเปลี่ยนหลัก
หากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คุณสามารถไปที่เว็บไซต์ Bitcoin Hyper และเพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่นที่สุดในการใช้งาน ควรเลือกใช้ Best Wallet เนื่องจากโทเค็น HYPER ได้รับการแสดงผลในส่วน “Upcoming Tokens” ในตัวแอปแล้ว ทำให้ง่ายต่อการติดตาม บริหารจัดการ และเข้าถึง
สามารถติดตามข่าวสารล่าสุดและเชื่อมต่อกับชุมชน Bitcoin Hyper ได้ทาง Telegram และ X และเยี่ยมชม เว็บไซต์ Bitcoin Hyper สำหรับรายละเอียดทั้งหมด
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | ✔️ |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | ❌ |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และไม่มีฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | ✔️ |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | ✔️ |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | ❌ |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | ✔️ |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | ❌ |
| 9. ไม่มีสัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
<strong>บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์ </strong>

