‘เอลซัลวาดอร์’ ประเทศผู้บุกเบิกการใช้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมายรายแรกของโลก ได้เพิ่มบิทคอยน์เข้าสู่คลังสำรองของประเทศอีกจำนวน 8 BTC ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันพวกเขามีบิตคอยน์ในครอบครองรวมกันกว่า 6,230.18 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 679 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ปัจจุบันเอลซัลวาดอร์ยังคงยึดมั่นในนโยบายบิตคอยน์ นับตั้งแต่ประกาศใช้บิตคอยน์ เป็นสกุลเงินถูกกฎหมายในปี 2021 ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Nayib Bukele รัฐบาลเอลซัลวาดอร์เดินหน้าสะสมบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่ราคาตลาดปรับฐานลงมา ซึ่งการเข้าซื้อครั้งล่าสุดเกิดขึ้นขณะที่ราคา Bitcoin เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับประมาณ 108,000 – 109,000 ดอลลาร์
แม้ว่าจะมีข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในปี 2024 ที่ระบุว่า รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ไม่ควรซื้อสะสมบิตคอยน์เพิ่มอีก แต่ทางรัฐบาลก็ยังคงเดินหน้าซื้ออย่างต่อเนื่องโดยไม่สนคำแนะนำหรือคำเตือนใด ๆ
ปัจจุบัน คลังสำรองบิตคอยน์ของประเทศเติบโตขึ้นมาก โดยมีรายงานว่า ณ สิ้นปี 2024 รัฐบาลมีกำไรแบบยังไม่ขาย (Unrealized Profit) สูงถึงกว่า 333 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง การยอมรับบิตคอยน์ของประชาชนเอลซัลวาดอร์ยังคงต่ำอยู่ โดยจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัย Central American พบว่า มีเพียง 8.1% ของประชากรที่ใช้บิตคอยน์ในการทำธุรกรรมเมื่อปีที่แล้ว
หนึ่งในอุปสรรคสำคัญคือ ความไม่มั่นใจในระบบกระเป๋าเงิน Chivo ของรัฐบาล ซึ่งมีทั้งปัญหาด้านความปลอดภัยและประสบการณ์ใช้งานที่ไม่ราบรื่นนัก ทำให้หลายคนไม่กล้าใช้งาน และความตื่นตัวในกระแสคริปโตก็เริ่มซาลงในหมู่ประชาชนทั่วไป
- ที่มาข่าว:cointrackdaily
- ที่มาภาพ:larepublica

