Bit Digital บริษัทด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ประกาศเปลี่ยนกลยุทธ์การถือครองทรัพย์สินในคลังของบริษัท จาก Bitcoin เปลี่ยนมาเป็น Ethereum อย่างกระทันหัน
โดยบริษัท Bit Digital ได้ใช้เงินจากการระดมทุนรอบล่าสุด ร่วมกับเงินที่ได้จากการเทขาย Bitcoin จำนวน 280 BTC รวมมูลค่ากว่า 172 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำมาซื้อ Ethereum แทน
จากรายงานล่าสุด ระบุว่า ในไตรมาสแรก บริษัท Bit Digital ถือครอง Ethereum อยู่จำนวน 24,434 ETH แต่ตอนนี้บริษัทเพิ่ม จำนวนการถือครอง Ethereum เป็น 100,603 ETH แล้ว
หลังข่าวนี้ถูกเปิดเผย หุ้นของบริษัท Bit Digital ที่ซื้อขายภายใต้ชื่อ BTBT ก็ราคาพุ่งขึ้นกว่า 29% ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมบริษัท กลับมาแตะระดับ 1 พันล้านดอลลาร์อีกครั้ง
หุ้นของ Bit Digitalในปีนี้ ที่มา: Google Finance
Sam Tabar ซีอีโอ ของ Bit Digital กล่าวว่า “เรากำลังมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพระยะยาวของ Ethereum และตั้งเป้าให้บริษัทเป็น แพลตฟอร์มถือครอง ETH (Ethereum) ที่โดดเด่นที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ โดย Bit Digital มีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็น บริษัทที่ถือครอง Ethereum มากที่สุดในโลก ”
การขยับครั้งนี้ทำให้ Bit Digital กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ถือ Ethereum มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Coinbase ตามข้อมูลจาก CoinGecko
แม้ปีนี้หลายบริษัทจะเริ่มทยอยเพิ่ม Bitcoin เข้าในงบดุล แต่กรณีของ Bit Digital นับเป็นหนึ่งในไม่กี่ตัวอย่างที่บริษัทมหาชน เลือกโฟกัสไปที่ Ethereum แทน ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ETH อาจเริ่มได้รับความสนใจจากภาคองค์กรบ้างแล้ว
ที่ผ่านมา บริษัทอย่าง Strategy (MSTR) เป็นผู้นำเทรนด์การถือครอง Bitcoin ในคลังบริษัท ด้วยการสะสม Bitcoin กว่า 597,323 BTC ทำให้กลยุทธ์การถือคริปโตในคลัง (crypto treasury strategy) กลายเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงปี 2025
บริษัทคลัง Bitcoin ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แหล่งที่มา: BitcoinTreasuries.NET
แต่หลายฝ่ายก็เริ่มตั้งคำถามว่า การถือ BTC ในงบดุล โดยไม่มีแผนธุรกิจรองรับ อาจกลายเป็นดาบสองคม โดยเฉพาะกับบริษัทที่ไม่ได้มีรายได้หรือโมเดลธุรกิจที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม แม้ Ethereum จะยังไม่ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน ได้มากเท่า Bitcoin แต่กระแสอาจเริ่มเปลี่ยน เมื่อกองทุน Ether ETH ในสหรัฐฯ มีเงินไหลเข้าต่อเนื่องติดต่อกัน 7 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีว่า Ethereum อาจกลายเป็นสินทรัพย์คลังสำรองที่น่าสนใจไม่แพ้ Bitcoin ในอนาคตอันใกล้
ที่มา : cointelegraph