สหรัฐอเมริกาได้เปิดฉากการสอบสวนอย่างเป็นทางการต่อแนวทางปฏิบัติด้านการค้าดิจิทัลของบราซิล โดยพุ่งเป้าไปที่ “Pix” ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินด่วนของรัฐบาลที่เติบโตอย่างรวดเร็วจนเข้ามาแทนที่คู่แข่งในภาคเอกชน การสอบสวนครั้งนี้ ซึ่งประกาศเมื่อวันอังคารโดยนาย Jamieson Greer ผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ จะตรวจสอบว่านโยบายดิจิทัลและการค้าของบราซิลสร้างความเสียเปรียบให้กับบริษัทสัญชาติอเมริกันอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่
นาย Greer ระบุว่าการสอบสวนจะทบทวน “อุปสรรคทางภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี” ของบราซิล โดยกล่าวหาว่าบราซิลให้สิทธิพิเศษกับคู่ค้ารายอื่นในขณะที่ทำให้ผู้ส่งออกของสหรัฐฯ เสียเปรียบ อีกประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือการที่บราซิลถูกกล่าวหาว่าลงโทษบริษัทเทคโนโลยีของอเมริกาที่ปฏิเสธที่จะเซนเซอร์การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เช่น กรณีที่ศาลสูงสุดของบราซิลสั่งระงับการใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ทั่วประเทศ หลังจากที่นายอีลอน มัสก์ ปฏิเสธที่จะแต่งตั้งผู้แทนทางกฎหมายในประเทศ
การสอบสวนครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดครั้งล่าสุดระหว่างสองประเทศ หลังจากที่เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางการบราซิลยุติการดำเนินคดีกับอดีตประธานาธิบดี Jair Bolsonaro ซึ่งเขาเรียกว่าเป็นการ “ล่าแม่มด” ไม่กี่วันหลังจากนั้น ทรัมป์ได้ขู่ว่าจะเริ่มการสอบสวนดังกล่าว พร้อมทั้งจะขึ้นภาษีนำเข้าจากบราซิลถึง 50% โดยจะเริ่มมีผลในวันที่ 1 สิงหาคม
Pix ซึ่งเปิดตัวในปี 2020 โดยธนาคารกลางของบราซิล เป็นระบบชำระเงินด่วนของภาครัฐที่อนุญาตให้ผู้คนส่งและรับเงินได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำมาก ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 150 ล้านคนและมีการยอมรับในธุรกิจกว่า 60 ล้านแห่ง Pix ได้กลายเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจดิจิทัลของบราซิลอย่างรวดเร็ว การสอบสวนของสหรัฐฯ จะตรวจสอบว่าบราซิลได้ให้การสนับสนุนระบบชำระเงินท้องถิ่นของตนเองจนทำให้คู่แข่งจากอเมริกาอย่าง Mastercard และ Visa ต้องเสียเปรียบหรือไม่
แต่ความกังวลของสหรัฐฯ นั้นลึกซึ้งยิ่งกว่าแค่การแข่งขันทางธุรกิจ แม้ว่า Pix จะให้บริการเฉพาะในประเทศ แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของ “สะพานเชื่อมฟินเทคคริปโต” ที่อนุญาตให้ผู้คนทั่วโลกสามารถส่ง Stablecoin และรับเงินเข้าบัญชีธนาคารในบราซิลผ่านระบบ Pix ได้ทันที ซึ่งหมายความว่าบุคคลและธุรกิจสามารถหลีกเลี่ยงช่องทางการเงินแบบดั้งเดิมอย่างระบบ SWIFT, PayPal หรือแม้แต่บริการโอนเงินของสหรัฐฯ อย่าง Western Union ได้โดยสิ้นเชิง
สำหรับประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว ความกังวลนี้ยังเชื่อมโยงไปถึงประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ ในฐานะสมาชิกของกลุ่มเศรษฐกิจ BRICS ร่วมกับรัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ บราซิลเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามร่วมกันที่จะลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐและโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของชาติตะวันตก โดยในปี 2024 กลุ่ม BRICS ได้เปิดตัว “BRICS Pay” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินข้ามพรมแดนเพื่อหลีกเลี่ยงระบบ SWIFT และในการประชุมสุดยอดครั้งล่าสุด กลุ่มยังได้หารือเกี่ยวกับการสร้างสกุลเงินสำรองร่วมกันเพื่อเป็นทางเลือกแทนดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีรายงานว่าเป็นท่าทีที่สร้างความไม่พอใจให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก การเปิดฉากสอบสวน Pix ในครั้งนี้จึงอาจเป็นมากกว่าแค่ประเด็นทางการค้า แต่เป็นส่วนหนึ่งของเกมการเมืองที่ใหญ่กว่านั้น
ที่มา: cointelegraph

